Trend Fast Track ประจำสัปดาห์นี้ขอเสนอหัวข้อเทรนด์เรื่อง :
“The Consumption of Life Lifted” (การบริโภคเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต) ขณะที่ผลกระทบจาก Key Impact ต่างๆ มีผลต่อการใช้ชีวิตของคนมากขึ้นสำหรับเทรนด์นี้เรามาลองดูกันว่าแบรนด์ต่างๆ จะเข้ามามีบทบาทอย่างไร
• ‘Brand as HERO’ คือสิ่งที่หลายๆ แบรนด์ในปัจจุบันพยายามที่จะเป็น คือ ฮีโร่ที่จะคอยช่วยผู้บริโภคในช่วงเวลาที่มีปัญหา หรือต้องการผู้ช่วยที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น ง่ายขึ้น และสะดวกมากยิ่งขึ้น
• เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคน แบรนด์มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าในความต้องการของผู้บริโภค รวมไปถึงแนวโน้มของคนว่าจะเปลี่ยนไปในทิศทางใด และออกแบบนวัตกรรมใหม่ เพื่อรองรับ หรือแก้ไขปัญหาให้ตอบโจทย์ให้ตรงใจผู้บริโภค เพื่อที่จะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต และเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภค
• สำหรับกรณีศึกษาในสัปดาห์นี้มีหลายแบรนด์จากทั่วทุกมุมโลกมีแนวคิดที่น่าสนใจ ที่จะช่วยยกระดับการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน เราลองมาดูกันว่าในแต่ละประเทศนั้นมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
1. [ฝรั่งเศส] citroën บริษัทรถยนต์จากฝรั่งเศษได้ออกรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ami one ในงาน มอเตอร์โชว์ที่เจนีวา สิ่งที่น่าสนใจคือการรณรงค์ว่ารถที่จะออกมานี้ คนที่ไม่มีใบขับขี่ก็สามารถใช้ได้ เพื่อกระตุ้นกระเเสในการใช้งานฟังค์ชั่นต่างๆเกี่ยวกับ การเดินทางมากขึ้น โดยรถรุ่นนี้จะใช้งานร่วมกับ สตาร์ทอัพ FREE2MOVE ที่เป็นธุรกิจ Car Sharing ในฝั่งอเมริกาและยุโรป ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของการจารจร และปริมมาณของรถยนต์ในเมืองรวมไปถึงอุบัติเหตุบนท้องถนนอีกด้วย
credit: https://
2. [อังกฤษ] BLOND Design บริษัทออกแบบในอังกฤษ ได้ออกแบบขวดนมที่ปรับการใช้งานให้เข้ากับอายุของเด็กในแต่ละช่วงอายุ เน้นที่ทำการออกแบบโดยเน้นที่ผู้ใช้งานหลักคือพ่อเเม่และพฤติกรรมของเด็กในแต่ละช่วงวัย โดยเเต่ละชิ้นส่วนผลิตจากซิลิโคนมาตรฐานทางการแพทย์ ที่สามารถใช้ได้นานข้าม Generation เลยทีเดียว และเเต่ละชิ้นส่วนทางบริษัทยังมีนโยบายที่จะรับเปลี่ยนคืนอีกด้วย ซึ่งในส่วนนี้จะทำให้การใช้ขวดนมเป็นเรื่องที่ง่ายมากยิ่งขึ้น และแบรนด์พยายามเข้าใจเรามากขึ้น
credit: https://www.dezeen.com/
3. [สวีเดน] IKEA แบรนด์เฟอนิเจอร์ที่เรารู้จักกันดี ประกาศเปิดตัวสินค้าใหม่ Gunrid เป็นม่านที่สามารถฟอกอากาศได้ เป็นการลดมลพิษทางอากาศได้ แถมยังช่วยประหยัดพื้นที่ภายในบ้านได้อีกด้วย ม่านกรองอากาศ Gunrid ตัวนี้ได้มีกระบวนการทำงานแบบ mineral-based photocatalyst ซึ่งสามารถแยกมลพิษออกจากอากาศได้เมื่อม่านสัมผัสกับแสง ม่านนี้สามารถทำงานได้ทั้งในแสงธรรมชาติ และแสงประดิษฐ์ทั่วไป เป็นการนำผ้าสิ่งทอต่างๆ มาใช้งานในบ้าน และเมื่อเปิดม่านก็จะทำให้อากาศบริสุทธิ์ มีโซลูชั่นในการฟอกอากาศ แถมยังประหยัดพื้นที่ในบ้าน ทำให้สวยงามขึ้นได้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการการรับรู้ของผู้คนในเรื่องของมลพิษทางอากาศภายในอาคารมากขึ้น ซึ่ง Gunrid เป็นสินค้าตัวแรกที่มีการใช้เทคโนโลยีกับสิ่งทอ แต่ในอนาคตจะมีการพัฒนาไปกับสิ่งทอตัวอื่นๆ มากขึ้น เชื่อว่าจะได้ผลในระยะยาวในการเปลี่ยนพฤติกรรมในเชิงบวก ให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดีขึ้น และมีความยั่งยืนมากขึ้น
4. [เดนมาร์ก] หมู่เกาะแฟโร เป็นหมู่เกาะในทวีปยุโรป ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก หมู่เกาะแฟโรเป็นเขตการปกครองตนเองของเดนมาร์ก เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ไม่มีมลพิษและไร้มลทินมากที่สุดในโลก ที่ National Geographic เคยยกให้เป็น Readers’ Choice Winner สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวปี 2015 และตอนนี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 10% ต่อปีในช่วงห้าปี แต่การที่จะเปลี่ยนหมู่เกาะให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นกระแสหลักเป็นเรื่องยาก และคนในเกาะก็ไม่ต้องการให้นักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างล้นหลามจะทำให้ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ Guðrið Højgaard ผู้อำนวยการคณะกรรมการการท่องเที่ยวของเกาะได้สร้างแคมเปญหนึ่งขึ้นมา ที่มีชื่อว่า CLOSED FOR MAINTENANCE, OPEN FOR VOLUNTOURISM คือ จะปิดเกาะไม่รับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ 26 – 28 เมษายน แต่จะรับอาสาสมัครท่องเที่ยว 100 คนสำหรับโครงการพัฒนาท้องถิ่นเพื่อปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการรองรับนักท่องเที่ยว คือนักท่องเที่ยวที่เป็นอาสาสมัครและคนในพื้นที่ร่วมมือกันในการทำเครื่องหมายเส้นทาง สร้างสัญญาณ และปรับปรุงสภาพแวดล้อม โดยจะได้รับที่พัก และอาหารฟรีตลอดที่เข้าโครงการนี้ ซึ่งแคมเปญใหม่นี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการช่วยให้ชาวแฟโรได้อยู่เบื้องหลังการท่องเที่ยว เช่นเดียวกับก็ทำให้นักท่องเที่ยวทำสิ่งที่มีประโยชน์เมื่อพวกเขาไปเยี่ยมชม และคนในเกาะต้องการให้ผู้คนสัมผัสกับวัฒนธรรมที่แท้จริงของ Faroes และสิ่งสำคัญคือ ไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงเพราะบุคคลภายนอกจำนวนมากแต่อยากให้ทุกคนมาสัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติและไม่ถูกทำลาย ตามแนวคิด ‘Unspoiled, Unexplored, Unbelievable’
credit: https://
5. [สิงคโปร์] Green Architecture หรือสถาปัตตยกรรมสีเขียวเป็นสิ่งที่เราได้ยินมานานแล้ว แต่สิงคโปร์เพิ่งเปิดตัว The School of Design & Environment 4 (SDE4) ซึ่งประกาศว่าเป็นอาคารที่ใช้พลังงานรวมเป็นศูนย์ (net-zero-energy building) แห่งแรกในสิงคโปร์ ผู้ออกแบบกล่าวว่าเขาได้ผสานเอาเป้าหมายเชิง net-zero เข้ากับการทบทวนรูปแบบทางการออกแบบตามแนวทาง Tropical Architecture ตัวอาคารครอบคลุมพื้นที่กว่า 8,5000 ตร.ม. ประกอบไปด้วยสตูดิโอออกแบบ, พื้นที่พลาซ่า, สำนักวิจัย คาเฟ่ และห้องสมุด พื้นที่ Open-Air ในหลายๆ พื้นที่ถูกใช้สำหรับการเรียนการสอนแบบไม่เป็นทางการ องค์ประกอบหลักที่ทำให้โรงเรียนนี้เป้น Net Zero ได้แก่ Solarcell 1200 units บนหลังคา, พื้นที่สวนที่ช่วยทำให้น้ำบริสุทธิ์ขึ้น, แผง Perfolated Aluminiam ที่แสงและอากาศผ่านได้ ทั้งหมดนี้นอกจากจะช่วยโลกแล้วยังกลายเป็นสื่อการสอนชั้นดีในการสอนเรื่อง Sustainable Design อีกด้วย
🔥 Trend Fast Track เทรนด์สดใหม่เสิร์ฟร้อน 🔥 โดย Baramizi Lab ศูนย์วิจัยคอนเซปต์แห่งอนาคตและการออกแบบ เราได้ทำการ Spot กรณีศึกษา (Case Study) จากข่าวสารแหล่งต่างๆ และศึกษาเทรนด์การออกแบบประสบการณ์เด็ดๆ อะไรที่แบรนด์พร้อมใจกันสร้าง และ Launch ออกมาทั่วโลกในแต่ละสัปดาห์