Insurance Business Trend Update 2018

การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีในหลายปีที่ผ่านมา และที่กำลังจะก้าวหน้าไปอีกไกลต่อจากนี้ ล้วนเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สร้างผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมให้กับวิถีชีวิตของมนุษย์ทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยส่วนหนึ่งก็ส่งผลในเชิงพฤติกรรมจากความต้องการส่วนลึก ทำให้ทุกคนมีความคาดหวังว่าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า และเป็นปัจเจกมากกว่าจากการบริโภคสินค้าและบริการ อีกส่วนหนึ่งคือความรู้สึกถึงการสร้างสมดุลระหว่างเทคโนโลยีและความเป็นมนุษย์เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน สิ่งนี้เองที่กลายเป็น Disrupt ทำให้ทุกธุรกิจต้องเร่งปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การศึกษาเทรนด์โลกทั้งในเชิงกว้างและเชิงลึก นำมาสร้างสรรค์แผนธุรกิจเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการให้ทันสมัย ชิงความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์มุ่งสู่การเป็นผู้นำในตลาด จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างที่สุดสำหรับยุคนี้

เทคโนโลยีล้ำสมัยไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ผู้ประกอบการยุคใหม่ควรเลือกรับปรับใช้ให้เหมาะกับธุรกิจในสไตล์ของตัวเองเพื่อต่อยอดและเร่งเครื่องไปสู่อนาคตอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องก้าวกระโดดไปสำรวจสู่พื้นที่ใหม่ๆ ที่ Mega Trend ได้ชี้นำเราไป สู่อนาคตทางธุรกิจที่จะเติบโตขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และยั่งยืน

New Question

ในโลกอดีต ธุรกิจการประกันอยู่ได้บนพื้นฐานของความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินต่างๆ แต่จะเป็นอย่างไร หากพฤติกรรมของผู้คนเปลี่ยนไปจนเงื่อนไขการประกันแบบเดิมเริ่มไม่ตอบโจทย์ ความปลอดภัยในชีวิตเพิ่มสูงขึ้นจากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยแสนฉลาด ความเสี่ยงในชีวิตหรือทรัพย์สินของผู้คนลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ธุรกิจของคุณจะเร่งปรับตัวเพื่อก้าวไปให้ทัน หรือจะรอวันตกรุ่นไปในที่สุด ?

เครดิตภาพ : https://morethanjustsurviving.com

 

New Attitude

ผู้คนในปี 2018 และนับจากนี้ไป จะมีความห่วงใยใน “คุณภาพชีวิต” มากขึ้นกว่าเดิม นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการกินดีอยู่ดี การออกกำลังกาย หรือการมีฐานะ แต่ล่วงเลยไปถึงวิถีชีวิตที่มีคุณภาพตลอดทุกวินาทีแบบไร้จุดสะดุดแม้ยามหลับ มีความต้องการสร้างสมดุลชีวิตที่ดี โดยใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันเพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ในสังคมแห่งอนาคต ผู้คนจะต้องการการตอบสนองอย่างเฉพาะเจาะจง มีความเป็นปัจเจกมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีความต้องการที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พบเจอผู้คนใหม่ๆ ไม่รังเกียจที่จะแบ่งปันพื้นที่หรือทรัพยากรที่ใช้อยู่ร่วมกัน เพื่อลดต้นทุนส่วนบุคคลหรือสร้างรายได้เพิ่มขึ้น โดยจะเปิดรับรูปแบบการใช้ชีวิตในวิถี Sharing Society อย่างเต็มที่ มีรูปแบบธุรกิจประเภทนี้ที่ประสบความสำเร็จมากมาย เช่น Airbnb หรือ Uber และสิ่งนี้จะมีผลกระทบต่อระบบการประกันแบบเดิมๆ อย่างแน่นอน

เครดิตภาพ : www.archdaily.com

 

New technology

ในโลกอนาคต รูปแบบของการประกันจะเปลี่ยนแปลงจากจุดปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง ระบบตัวแทนหรือโบรกเกอร์อาจจะหายไปและถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์หรือระบบปฏิบัติการ ซึ่งได้รับการพัฒนาให้สามารถคำนวณด้วยข้อมูลเชิงสถิติและแสดงผลการวิเคราะห์เป็นทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้าได้อย่างมีเหตุมีผล แอพพลิเคชั่นต่างๆ จะฉลาดยิ่งขึ้น สามารถทดแทนกระบวนการต่างๆ ที่ทำได้ด้วยมือ สะดวกต่อผู้ใช้บริการมากขึ้นและลดปัญหาที่เกิดจาก Human Error ได้อย่างมีประสิทธิภาพชนิดใกล้เคียงศูนย์ ในธุรกิจประกันของบริษัทระดับโลกเริ่มมีการใช้เทคโนโลยีด้านจัดการข้อมูลและแพลตฟอร์มต่างๆ มาเป็นสื่อกลางในการขาย การเคลม และการให้บริการอย่างแพร่หลาย กลายเป็นนิมิตใหม่ในการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของวงการอย่างสิ้นเชิง ตัวอย่างที่ดีของการนำเทคโนโลยีมาใช้ในงานประกัน เช่น Trov สตาร์ทอัพในธุรกิจประกันที่ลูกค้าสามารถซื้อประกันสำหรับสิ่งของต่างๆ แบบสั่งได้ (On-Demand) ด้วยตนเอง ปรับแต่งกรมธรรม์ได้ตามต้องการ และเคลมได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยใช้แอพพลิเคชั่นของ Trov เพียงแอพเดียวเท่านั้น

เครดิตภาพ : https://money-watch.co.uk

 

New players

เมื่อข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญในโลกเทคโนโลยี บริษัทใหญ่ๆ ระดับโลกซึ่งเป็นผู้ถือข้อมูลหรือเครื่องมือในการสื่อสารข้อมูลสู่ลูกค้าอย่างง่ายได้ ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทในธุรกิจประกันอย่างชัดเจนและทรงพลัง เริ่มจากการที่ Google ออกผลิตภัณฑ์ Google Compare เพื่อให้บริการด้านการเปรียบเทียบประกันเมื่อปี 2015 แม้จะปิดตัวไปภายใน 1 ปี แต่ก็กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการร่วมมือกับธุรกิจประกันชีวิตอย่าง Ladder นำแอพพลิเคชั่นชื่อว่า Ladder Life เข้ามาใส่ใน Google Home และทำหน้าที่เสมือนตัวแทนการแนะนำผลิตภัณฑ์ประกันให้กับผู้ใช้ โดยทำได้ตั้งแต่การแนะนำประโยชน์พื้นฐาน ทำแบบสอบถามเบื้องต้น ไปจนถึงคำนวนค่าใช้จ่ายและแพ็คเกจที่เหมาะสมให้ และผู้ใช้สามารถไปซื้อจริงได้ผ่านแอพพลิเคชั่นของ Ladder ไม่เพียงเท่านั้น Google ยังจับเรื่องนวัตกรรมรถยนต์ไร้คนขับภายใต้แบรนด์ Waymo โดยมุ่งหวังจะนำมาให้บริการแบบ Share Riding เพื่อตอบสนองต่อการเป็น Sharing Society ในอนาคต โดยได้รับความร่วมมือด้านการประกันภัยสำหรับผู้โดยสารจาก Trov ด้วย

เครดิตภาพ : https://medium.com

 

New Roles

ด้วยพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปหรือสภาพสังคมที่เกิดการแบ่งปันทรัพยากร บทบาทใหม่ของบริษัทประกัน คือ การเป็นมากกว่าแค่ผู้ขายผลิตภัณฑ์ ด้วยการปรับตัวสู่การให้บริการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของลูกค้าอย่างรอบด้าน โดยอาศัยเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นเครื่องมือช่วยในการทำงาน เริ่มมองหาความร่วมมือในทุกระดับทั้งในธุรกิจที่ใกล้เคียงกัน หรือในธุรกิจอื่นๆ เพื่อสร้างโอกาสในตลาดใหม่ที่กว้างขึ้น หรือมอบการสนับสนุนให้กับสตาร์ทอัพที่มีความเชี่ยวชาญให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตรงต่อจริตลูกค้าคนรุ่นใหม่ ขอเพียงแต่ยอมออกจากกรอบเดิมๆ สักนิด ก็จะมองเห็นโลกที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ตัวอย่างของธุรกิจที่เริ่มปรับตัวได้อย่างเด่นชัด ก็คือ AXA ที่เพิ่งตกลงทำความร่วมมือกับ Alibaba เพื่อการสำรวจแนวทางใหม่ๆ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของ AXA ผ่าน Eco-system ของอะลีบาบา เช่น ขยายการประกันความเสียหายหรือเพิ่มความคุ้มครองให้กับการชำระเงินออนไลน์ ส่วนมาร์เก็ตเพลสของอะลีบาบาอย่าง Alibaba.com และ 1688.com ทาง AXA จะให้ความคุ้มครองสินค้าของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางทั่วโลกที่ใช้บริการแพลตฟอร์มนี้อยู่แล้ว เป็นต้น เป็นการจับลูกค้าที่มี Need อยู่แล้วในตลาดโลกได้อย่างรวดเร็วในครั้งเดียว

เครดิตภาพ : AXA.com