Google ทำอย่างไรให้กลายเป็นองค์กรในฝันของคนรุ่นใหม่ (Internal Branding) การรักษาพนักงานที่มีศักยภาพให้อยู่กับบริษัทเราได้นานๆ นอกจากจะมีผลต่อการเติบโตของบริษัทแล้ว ก็ยังสามารถดึงดูด Talent ใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มได้อีก

🏢 องค์กรที่เข้มแข็งจากภายในสู่ภายนอกย่อมส่งผลถึงผลประกอบการที่เติบโตตามมา เมื่อนึกถึงองค์กรด้าน Tech ที่ประสบความสำเร็จเป็นอันดับต้นๆ ของโลก บริษัทที่ชื่อ Google คงจะเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ผุดขึ้นมาในใจของทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่อยากร่วมงานกับองค์กรที่มีโครงสร้างภายในที่ช่วยสร้างพนักงานเก่งๆ มาแล้วมากมาย

แล้วทุกคนเคยสงสัยกันไหมคะว่า.. ทำไม Google ถึงเป็นบริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากเข้าไปทำงานมากที่สุด?

ส่วนที่สำคัญที่สุดนั้นเริ่มจากภายใน..

👨‍💻 Google เป็นบริษัทที่เข้าใจและสนับสนุนพนักงานอย่างเต็มที่ นอกจากจะมีสวัสดิการที่อำนวยความสะดวก ตอบโจทย์พนักงานได้แบบครบครัน ตั้งแต่ก้าวเดินออกจากบ้านมาจนถึงบริษัทแล้ว ยังมีวัฒนธรรมองค์กรที่ชวนให้พนักงานเป็นคนที่มีศักยภาพ มีความคิดสร้างสรรค์ และให้โอกาสเติบโตในที่แห่งนี้ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

วันนี้บารามีซี่ขอหยิบยกประเด็นตัวอย่างวัฒนธรรมที่น่าสนใจของ Google มาให้ทุกท่านได้อ่าน เรียกได้ว่าเป็น WOW Culture หรือวัฒนธรรมที่โดดเด่นของที่นี่นั่นเองค่ะ

🎯 1.การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ใช่

– Generate Cognitive Ability: Google ไม่ได้มองหาคนที่ตอบคำถามได้ถูกต้องที่สุด แต่คือคนที่มีความสามารถในการแสดงกระบวนการคิด มีวิธีการหาคำตอบที่น่าสนใจ และสามารถหา solution ออกมาได้

– Role Related Knowledge:  Google ไม่ได้มองหาคนที่มีประสบการณ์ในสายงานนั้นโดยตรง แต่คือความสามารถในการเรียนรู้ ความทะเยอทะยานในบทบาทที่ได้รับ ความกระหายที่จะเรียนรู้ตลอดเวลา ความถ่อมตน การมี Growth Mindet ความเชื่อว่าทุกสิ่งสามารถเรียนรู้ได้ และสามารถถ่ายทอดทักษะที่มีมาใช้ในบทบาทที่ได้รับมอบหมาย

– Leadership: ไม่จำเป็นว่าคนนั้นจะต้องเป็นหัวหน้า แต่คือการมีภาวะความเป็นผู้นำ ที่รู้ว่าเมื่อใดควรจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อนำคนอื่น หรือถอยกลับมาเมื่อจำเป็น เพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นได้มีบทบาทบ้าง นี่คือการที่ทุกคนได้มีบทบาทในการทำงานเป็นทีม

– Googleyness:  คนๆ นั้นไม่จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อให้เข้ากับวัฒนธรรมของ Google แบบ 100% แต่คนนั้นจะประสบความสำเร็จและทำงานได้มีประสิทธิภาพในวัฒนธรรมของ Google หรือไม่ คนนั้นจะต้องให้ความสำคัญกับ feedback กล้าท้าทายต่อปัญหา รับผิดชอบต่อโอกาสที่ได้รับ ทำในสิ่งที่ถูกต้อง และพร้อมที่จะออกจาก comfort zone

🎯 2. เฉลิมฉลองความล้มเหลว “Fail and I Learn”
– เมื่อใดล้มเหลว จะให้พนักงานตั้งคำถามว่า
– พวกเขาได้เรียนรู้อะไรจากความผิดพลาดครั้งนั้น?
– เกิดอะไรขึ้นกับกระบวนการตัดสินใจในครั้งนั้น?
– ในครั้งต่อไปพวกเขาสามารถทำอะไรเพื่อให้มันดีขึ้นได้บ้าง?

🎯 3.นโยบาย 20 Percent Time
คือ นโยบายที่ Google ให้พนักงานใช้เวลาทำงาน 20% ไปสร้างโปรเจกต์อะไรก็ได้ที่สร้างประโยชน์ให้กับ Google มากที่สุด นอกเหนือจากการทำงานในหน้าที่ปกติ ซึ่งการใช้เวลาตรงนี้จะทำให้พนักงานเกิดความคิดสร้างสรรค์ในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมา และสามารถสร้างผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ให้กับ Google ได้ ตัวอย่างนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากนโยบาย 20 Percent Time เช่น Google News (2002), AdSense (2003) และ Gmail (2004) ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็ได้ออกมาสร้างความคุ้นเคยใหม่ๆ ให้กับเรา จนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ การสร้างประสบการณ์สำหรับพนักงานภายในสำนักงานใหญ่ก็มีส่วนอย่างมากในการดึงดูด Talent ใหม่ๆ ที่ได้เห็นการเผยแพร่บรรยากาศการทำงานภายในออฟฟิศ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าสนใจ ถ่ายทอดภาพลักษณ์ความเป็นองค์กรแห่งการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี อาทิ

1.การออกแบบพื้นที่ภายในออฟฟิศ 🪑
– พื้นที่ทำงานขนาดเล็ก เพื่อให้พนักงานได้พูดคุยสื่อสารกันตลอดเวลาได้อย่างสะดวก
– สวัสดิการฟรีสำหรับพนักงาน เช่น การดูแลสุขภาพ ทันตกรรม นวด ตัดผม ซักแห้ง โรงยิม สระว่ายน้ำ ห้องอาบน้ำและห้องนอน มีบริการอาหารและกาแฟ อย่างครบครัน
– มีมุม Video Games ทำให้พนักงานเกิดความผ่อนคลายและมีเวลาพูดคุยเพื่อทำความรู้จักกันมากยิ่งขึ้น
– พื้นที่ส่วนกลาง เพื่อให้พนักงานได้มาพักผ่อนและพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน

2.เครื่องมืออำนวยความสะดวกสำหรับพนักงาน 💻
– Googler-to-Googler Program (G2G) เพิ่มทักษะต่างๆ ตั้งแต่เริ่มปฐมนิเทศพนักงานใหม่เข้ามาทำงาน
– Classroom & Training การจัดบรรยายจากผู้นำความคิดระดับโลก ทำให้พนักงานได้ประโยชน์ และได้เสริมองค์ความรู้ใหม่ๆ อย่างมหาศาล
– Idea Sharing Board เพื่อให้พนักงานได้มาแลกเปลี่ยน ความคิด ไอเดียต่างๆ ด้วยกัน
– Powerful Work Tools ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดในโลกอย่างไม่จำกัด

สรุป
จากที่กล่าวมาข้างต้น นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากสวัสดิการและวัฒนธรรมที่ Google มอบให้พนักงานเท่านั้น เมื่อพนักงานได้รับประสบการณ์ที่ดีจากสภาพแวดล้อม จะส่งผลถึง Mental Health ของพนักงานให้มีความสุข ไร้ความกังวลจากสิ่งรอบข้าง ก็ช่วยให้พนักงานมีเวลาโฟกัสกับงานมากขึ้นและงานที่ออกมามีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลดีทั้งตัวองค์กรและพนักงาน สิ่งเหล่านี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผู้คนกว่า 2 ล้านคนต่อปีส่งใบสมัครเข้ามาเพื่อมาเป็นส่วนหนึ่งของ Google

ดังนั้น การรักษาพนักงานที่มีศักยภาพให้อยู่กับบริษัทเราได้นานๆ นอกจากจะมีผลต่อการเติบโตของบริษัทแล้ว ก็ยังสามารถดึงดูด Talent ใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มได้อีก ถ้าบริษัทของท่านอยากมีคนเก่งๆ รุ่นใหม่ไฟแรงไปทำงานด้วย อาจจะลองนำนโยบาย 20 Percent Time ของ Google ไปลองปรับใช้ตามความเหมาะสมกับองค์กรตัวเองได้ เพื่อที่ว่าเมื่อพนักงานมีอิสระแล้ว ก็จะสามารถคิดค้นและนำเสนอไอเดียใหม่ๆ ในการสร้างนวัตกรรมได้มากขึ้นอีกด้วยค่ะ