มูลค่าแบรนด์ เป็นตัวชี้วัดการคาดการณ์กระแสเงินสดในอนาคต จากการวิจัย BFV™ Model (Brand Future Valuation Model) ที่ทาง Baramizi ได้จัดทำการวิจัยร่วมกับ รศ. ดร.ณัฐพล อัสสะรัตน์ ประธานหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯนั้น พบว่าความแข็งแกร่งของแบรนด์ และ คุณค่าแบรนด์มีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพทางการเงินของธุรกิจนั้นๆ โดยเฉพาะประสิทธิภาพในการสร้างรายได้และการคาดการณ์ถึงกระแสเงินสดในอนาคตของธุรกิจ

งานวิจัยบ่งชี้ว่า มูลค่าแบรนด์ เป็นตัวชี้วัดการคาดการณ์กระแสเงินสดในอนาคต

จากการวิจัย BFV™ Model (Brand Future Valuation Model) ที่ทาง Baramizi ได้จัดทำการวิจัยร่วมกับ รศ. ดร.ณัฐพล อัสสะรัตน์ ประธานหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นั้น พบว่าความแข็งแกร่งของแบรนด์ และ คุณค่าแบรนด์มีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพทางการเงินของธุรกิจนั้นๆ โดยเฉพาะประสิทธิภาพในการสร้างรายได้และการคาดการณ์ถึงกระแสเงินสดในอนาคตของธุรกิจ
ความแข็งแรงของแบรนด์จะสามารถส่งผลต่อการคาดการณ์ต่อกระแสเงินสดในอนาคตนั้น เป็นเพราะอะไร ? จากการวิจัย BFV™ Model พบว่า
1. แบรนด์ที่แข็งแรงกว่าคู่แข่งในตลาด สามารถสร้างยอดขายในระยะสั้น และ ระยะยาวได้ดีกว่าซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
2. แบรนด์ที่แข็งแรงกว่าคู่แข่งในตลาด มีความสามารถในการเพิ่ม Market Share หรือ การเพิ่มสัดส่วนตลาดที่มากกว่าคู่แข่ง
3. แบรนด์ที่มีคุณค่ามากกว่าฟังก์ชันจะส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้มากกว่า กล่าวคือ คุณค่าแบรนด์ในระดับอารมณ์และความรู้สึกส่งผลต่อการจดจำแบรนด์ที่ดีกว่า และส่งผลต่อความรู้สึกที่ดีกว่าเมื่อได้เลือกซื้อหรือเลือกใช้สินค้า ในการจัดทำการวิจัยเราให้ตัวชี้วัดในข้อนี้ว่า Customer Value Index ( CVI ) ดังนั้นแบรนด์ที่มีโอกาสในการเติบโตนั้นเราไม่สามารถดูแค่เพียงปัจจัยทางการเงินได้ เพราะสิ่งนั้นคือตัวแปรด้านผลลัพธ์หรือผลของการกระทำ แต่การที่เราจะสามารถรู้ล่วงหน้าได้หรือหาสัญญาณชีพของการเติบโตได้นั้นเราต้องทราบสาเหตุของที่มาของการเติบโต หรือ เรียกว่าดูที่ต้นเหตุจริงๆ ซึ่งสิ่งนั้นก็คือความแข็งแรงของ
แบรนด์

บทเรียนจากวอร์เรน บัฟเฟตต์: แบรนด์คือ Indicators ระดับโลก
โดยจากการเก็บข้อมูลการจัดทำงานวิจัยด้วย Letterature Review นั้นพบว่านักลงทุนในระดับโลกอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้ก่อตั้ง Berkshire Hathaway ถึงมองเรื่องความแข็งแรงของแบรนด์เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญ เราจะสังเกตุเห็นได้ว่าการลงทุนของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ นั้นจะลงทุนช่วงจังหวะที่แบรนด์ที่กำลังเติบโตสู่ การเป็นแบรนด์มหาชนทั้งสิ้น อาทิเช่น ช่วงที่ลงทุนกับแบรนด์ Apple ไม่ได้ลงทุนช่วงเป็น Tech Company แต่ลงทุนช่วงที่ Apple กำลังเปลี่ยนถ่ายไปเป็น Consumer Product ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงมีสัญญาณชีพ Signal of Change ที่กำลังเติบโตและอยู่ในจุดดาวรุ่งของตลาดโลกในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน นั่นหมายถึงว่า แบรนด์ คือ Indicators ของนักลงทุนในระดับโลก ทั้งสิ้นแต่ข้อมูลลักษณะนี้ในประเทศไทยเรายังมีน้อยเกินไป และ อีกทั้งนักลงทุนไม่รู้จะดูได้จากไหน ? ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวสะท้อนความสามารถหลักทั้งหมดขององค์กร ดังนั้นในการวิจัยฉบับนี้เราจึงเกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาและสร้างผลกระทบในเชิงบวกให้กับภาคธุรกิจ การลงทุนและการเงิน
แบรนด์เหล่านี่คือตัวอย่างของการลงทุนของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้ก่อตั้ง Berkshire Hathaway ที่กลายเป็น Global Brand และสร้างกระแสเงินสด ที่มากมายให้กับผู้ลงทุน อาทิ
Apple แบรนด์เทคโนโลยีและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
Coca-Cola แบรนด์เครื่องดื่มอัดลมและสินค้า FMCG
American Express แบรนด์บริการการเงินและบัตรเครดิต
Moody’s แบรนด์บริการจัดอันดับเครดิตระดับโลก
Kraft Heinz แบรนด์อาหารและเครื่องปรุง
Duracell แบรนด์แบตเตอรี่
Dairy Queen (DQ) แบรนด์ไอศกรีมและฟาสต์ฟู้ด
BYD แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า

สำหรับในประเทศไทย !
ทางทีมงานได้ศึกษาวิจัยเรื่อง มูลค่าแบรนด์ในอนาคต (Brand Future Valuation) ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น เราได้ติดตามการเคลื่อนไหวของความแข็งแกร่งของ Brand Value กับประสิทธิภาพในการสร้างกระแสเงินสดหรือการสร้างรายได้ของแบรนด์เหล่านั้นในตลาด

จากข้อมูลต่อไปนี้ จะเห็นได้ว่าแบรนด์ในตลาดอสังหาฯไทยที่มีมูลค่าแบรนด์สูงนั้นจะสะท้อนตัวเลขทางการเงินที่สูงตามไปด้วย โดยดาต้าจะเปรียบเทียบกับอัตราของการสร้างรายได้ของแบรนด์เหล่านี้ในตลาดในปี 2025
ดังนี้
ข้อมูลค่าแบรนด์ในกลุ่มอสังหาฯ ที่ประเมินมูลค่าแบรนด์ด้วย BFV™ Model (Brand Future Valuation Model)
TOP 5 The Most Brand Future Valuation 2024
อันดับ 1 AP THAI (AP) มูลค่าแบรนด์ BFV™ อยู่ที่ 11,276.17 ล้านบาท
อันดับ 2 SC ASSET (SC) มูลค่าแบรนด์ BFV™ อยู่ที่ 10,060.47 ล้านบาท
อันดับ 3 SANSIRI (SIRI) มูลค่าแบรนด์ BFV™ อยู่ที่ 8,716.52 ล้านบาท
อันดับ 4 LAND & HOUSE (LH) มูลค่าแบรนด์ BFV™ อยู่ที่ 8,503.99 ล้านบาท
อันดับ 5 SUPALAI มูลค่าแบรนด์ BFV™ อยู่ที่ 8,019.38 ล้านบาท

TOP 5 แบรนด์อสังหาฯ ประเทศไทย รายได้ครึ่งปีแรก 2568
อันดับ 1 AP Thai อยู่ที่ 17,786.61 ล้านบาท
อันดับ 2 Sansiri อยู่ที่ 15,926.83 ล้านบาท
อันดับ 3 Land & House อยู่ที่ 10,897.58 ล้านบาท
อันดับ 4 Supalai อยู่ที่ 10,667.35 ล้านบาท
อันดับ 5 SC Asset อยู่ที่ 7,969.24 ล้านบาท
ข้อมูลรายได้จาก : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

จากการวิจัยนั้นพบว่าประสิทธิภาพของการสร้างรายได้นั้นมีความสัมพันธ์กับตัวเลขมูลค่าแบรนด์ที่ประเมินมูลค่าแบรนด์ด้วย BFV™ Model (Brand Future Valuation Model)

โดยบทสรุป
มูลค่าแบรนด์นั้น ถือได้ว่าสามารถเป็นตัวชี้วัดการคาดการณ์กระแสเงินสดและรายได้ของแบรนด์และธุรกิจนั้นๆ ในอนาคต ว่ามีความแข็งแกร่งและน่าลงทุนมากน้อยแค่ไหน การวิจัยนี้จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของการออกแบบตัวชี้วัดของตลาดทุนบ้านเราในอนาคตได้ต่อไป เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้นักลงทุน ทั้งในและทั่วโลกต่อไป