Bearhouse มีดีมากกว่าแค่ “รสชาติ” กับความใส่ใจใน Brand Experience

จากกระแสชาไข่มุกที่โด่งดังในประเทศไทยเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่เอ่ยถึง BearHouse ร้านชานมไข่มุกชื่อดังของยูทูบเบอร์ชื่อดังที่มีผู้ติดตามกว่า 3 ล้านคน ซึ่งไม่เพียงแต่สามารถดึงดูดผู้ติดตามที่มีอยู่ในปัจจุบันได้แล้ว ก็ยังสามารถดึงดูดเหล่าผู้คนที่ชื่นชอบในชานมไข่มุก ให้กลายมาเป็นแฟนคลับตัวยงของ Bearhouse ได้อีกด้วย 

กลยุทธ์ Brand Experience ของ Bearhouse

1. การพัฒนาสินค้าอยู่เสมอ

จุดเด่นที่สำคัญของ Bearhouse ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย นั่นคือ “ไข่มุกโมจิ” ที่ถูกคิดและพัฒนามาจาก Pain point ที่คุณซารต์และคุณกานต์เจอมาด้วยตัวเองด้วยการกินไข่มุกจากร้านอื่นที่มีความเหนียว ย่อยยาก ทำให้รู้สึกอืดท้องในภายหลัง จึงเกิดเป็นไข่มุกโมจิที่นุ่มนิ่มมากกว่าที่อื่นและยังผลิตจากแป้งข้าวไทย เพื่อเป็นการสนับสนุน Supply Chain ในไทยอีกด้วย นอกจากไข่มุกแล้วก็ยังมีการให้ความใส่ใจในส่วนประกอบต่างๆในส่วนผสมอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้นำแข็งที่มีขนาดใหญ่ ที่ละลายช้า และไม่ติดเข้ามาในหลอดขณะดูดไข่มุก การคัดสรรใบชาและส่วนผสมอื่นๆจากต้นแหล่งผลิตด้วยตนเอง

ตัวเม็ดชานมไข่มุกจากโมจิ เคี้ยวง่ายหนุบหนับที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน Bearhouse

อีกทั้งยังได้มีออกแบบผลิตภัณฑ์ตามสถานการณ์ต่าง เช่น ชานมแบบขวด และไข่มุกปั้นเอง ที่สามารถส่งไปขายได้ทั่วประเทศเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงในช่วงโควิด-19 ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ยังเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความพยายามในการคิดค้นและพัฒนาสินค้าของ BearHouse เพียงเท่านั้น เนื่องจากในปัจจุบัน BearHouse ก็ยังมีการพัฒนาสินค้าใหม่ๆด้วยความใส่ใจในรายละเอียดต่างๆเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ

ชานมไข่มุกแบบขวดตอบโจทย์ช่วงโควิด-19 ลูกค้าที่จะซื้อกลับไปทานที่บ้านหรือสั่งผ่านเดลิเวอร์รี่
2. การใช้เสียงเพลงของ “ชานมไข่มุก”

การออกแบบเพลงสำหรับใช้ในร้านโดยเฉพาะ เป็นดนตรีที่มีทำนองดนตรีที่ช่วยกระตุ้นความรู้สึกให้มีความเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศภายในร้านและยังสามารถดึงดูดให้คนเข้ามาในร้านได้อีกด้วย อีกทั้งยังเป็นการสร้างอัตลักษณ์ให้กับแบรนด์ เพื่อสร้างการจดจำในแบรนด์โดยที่ไม่ต้องใช้เสียงร้องเลยด้วยซ้ำ แต่ภายในเสียงเพลงเหล่านั้นก็เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่แบรนด์พยายามจะสื่อสารจากการใช้เสียงต่างๆที่บ่งบอกถึงร้าน BearHouse ไม่ว่าจะเป็น เสียงคุณซารต์ เสียงน้ำแข็งหล่นใส่แก้ว เสียงไข่มุกหล่น และเสียงใบชา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่สามารถสร้างความจดจำให้กับลูกค้าได้ผ่านประสบการณ์ที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ที่เมื่อได้ยินเสียงเพลงนี้ก็จะได้อารมณ์ราวกับกำลังนั่งกินชานมไข่มุกอยู่ในร้าน BearHouse เลยทีเดียว

คลิก เสียงเพลงอันเป็นเอกลักษณ์ที่เพียงแค่ฟังก็รู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในร้าน Bearhouse
3. การตกแต่งที่ช่วย “เติมเต็ม” สิ่งที่ขาดหาย

จะเห็นได้ว่า BearHouse นั้นมีการลงทุนจำนวนมากไปกับการตกแต่งร้าน ซึ่งต่างจากร้านชานมไข่มุกอื่นๆที่ให้ความสำคัญกับการให้บริการในรูปแบบ “Grab & Go” ที่ทั้งประหยัดต้นทุนและช่วยหมุนเวียนของลูกค้า เพียงแต่ BearHouse มีแนวคิดในการ “เติมเต็ม” ในสิ่งที่ขาดหายไปจากบริเวณรอบๆร้าน เช่น การแต่งเติมพื้นที่สีเขียว และเสียงสายน้ำ เพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวาในบริเวณที่ดูแห้งแล้ง มีแต่สายไฟพะรุงพะรัง และยังสามารถสร้างความโดดเด่นจากร้านอื่นๆ นอกจากนี้ก็ยังมีการออกแบบร้านที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่อีกด้วย เช่น มีห้องประชุมส่วนตัวสำหรับสาขาที่เปิดบริเวณสถานศึกษา เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับนั่งทำงานและติวหนังสือ และการออกแบบโต๊ะสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่สำหรับสาขาที่เปิดบริเวณออฟฟิศและมหาวิทยาลัย เหมาะสำหรับการนั่งอ่านหนังสือ ทำงานและผักผ่อนได้อีกด้วย

ร้าน Bearhouse สาขาสยามและสาขาสีลม ที่เป็นจุดรวมแหล่งของนักศึกษาและคนวัยทำงานที่ต้องการพื้นที่สำหรับอ่านหนังสือและพูดคุยกัน

ความสำเร็จของ Bearhouse

เรียกได้ว่า BearHouse นั้นมีการเจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดดเลยก็ว่าได้โดยในปีพ.ศ. 2562 หรือในปีที่เริ่มก่อตั้งนั้นมียอดขายอยู่เพียง 17 ล้านบาท ซึ่งก็ได้มียอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในปีถัดมาอยู่ที่ 82 ล้านบาท และ 117 ล้านบาท ในปีพ.ศ. 2563 และ2564 ตามลำดับ มีอัตราการกำไรเฉลี่ยอยู่ที่ 15% คาดว่ายอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 180 ล้านบาทในปีพ.ศ. 2565 และในปัจจุบันมีจำนวนสาขาอยู่ทั้งหมด 19 สาขาเลยทีเดียว

สรุป

ถึงแม้ขนาดตลาดชานมไข่มุกในประเทศไทยจะมูลค่าหลายพันล้าน ทำให้มีคู่แข่งเข้ามาในตลาดอย่างมากหน้าหลายตา จนเกิดการแข่งขันที่สูงมากก็ตาม ทว่าสิ่งสำคัญของการสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จไม่เพียงแต่การทำชานมไข่มุกให้อร่อยเท่านั้น แต่จะต้อง

“สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า (Brand Experience) ไม่ว่าจะจากตัวผลิตภัณฑ์ บริการ หรือสภาพแวดล้อมต่างๆ เพื่อสร้างความประทับใจ และจดจำในแบรนด์ได้”

ดังเช่น BearHouse ที่ได้กลายเป็นร้านชานมไข่มุกในดวงใจของใครหลายๆคนในปัจจุบัน

………………………………………….

ขอขอบคุณแหล่งที่มา :

https://www.blockdit.com/posts/5f77104fd5caf904ac9b28b5

https://amarinacademy.com/7750/marketing/music-marketing-bearhouse/ 

https://www.marketingoops.com/exclusive/business-case/bearhouse-fresh-boba-milk-tea/ 

https://www.longtungirl.com/992 

https://www.longtungirl.com/8424 

https://adaybulletin.com/talk-conversation-business-bearhouse-bearhug/62336 

https://positioningmag.com/1387646