นโยบายการสร้าง Global Brand ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจในประเทศอย่างไร ?

การที่องค์กรนั้น ๆ มีนโยบายในการเติบโตไปเป็นโกลบอลแบรนด์นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดประโยชน์เพียงแค่ต่อแบรนด์หรือองค์กรของตัวเองเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการเติบโตด้านเศรษฐกิจและห่วงโซ่ทั้งหมดในระบบเศรษฐกิจอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อการจ้างงานที่มีมูลค่าในประเทศ พัฒนาโอกาสและความหวังตลอดจนความภาคภูมิใจของคนในประเทศอีกด้วย

ครั้งหนึ่งจากประสบการณ์ตรงที่ผมเป็นที่ปรึกษาให้กับธุรกิจจำนวนมาก และต้องทำงานใกล้ชิดกับทั้งผู้ก่อตั้ง (Founder) ผู้บริหารระดับสูง (C level) มามากมายนั้น ผมมีเรื่องที่อยากเล่าและถ่ายทอดให้ผู้อ่านทุกท่านได้ฟัง โดยผมและทีมบารามีซี่ได้มีโอกาสทำงานกับเจ้าของแบรนด์หนึ่ง เป็นธุรกิจโคมไฟตกแต่ง

โดยที่ทางผู้ก่อตั้งนั้นมีประสบการณ์กับการทำธุรกิจโคมไฟมากกว่า 20 ปี และได้พัฒนาแบรนด์จากธุรกิจขายส่งที่ต้องแข่งขันด้านราคา โดยได้ทรานส์ฟอร์มรอบแรกจากตลาดล่างขึ้นไปสู่ตลาด Premium เพื่อวางเป้าหมายเป็น Top of Mind แบรนด์โคมไฟคริสตัลแท้ในประเทศ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 5 ปี แผนงานนี้ก็ลุล่วง
สามารถขยับตำแหน่งแบรนด์นี้ขึ้นมาในตลาดพรีเมียม โดยมีพาร์ทเนอร์โคมไฟเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากมายหลายแบรนด์ และส่งผลยอดขายที่เติบโตมากขึ้น และทำให้แบรนด์กลายเป็น Top of Mind คริสตัลแท้ อันนี้คือความสำเร็จในรอบแรก

ถัดมาเมื่อเศรษฐกิจของโลกมีการปรับตัว การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและแหล่งผลิตสินค้าทั่วโลกมีมากขึ้น อีกทั้งตลาดในประเทศเกิดใหม่อย่างใน SEA มีโอกาสที่สูงมาก และแบรนด์เรามีองค์ความรู้ประสบการณ์ที่มากขึ้น ก็ถึงเวลาที่ผมและทีมงานได้ช่วยลูกค้าแบรนด์นี้มองถึงแผนต่อไปในการขยายแบรนด์และธุรกิจ นั่นคือการวางแผนเส้นทางสู่ Global Brand ในอีก 5 ปีข้างหน้า จึงเริ่มขึ้นโดยมีแนวคิดที่เปลี่ยนจากการนำเข้าสินค้ามาขายในประเทศ แต่จะกลายเป็นไปออกโชว์สินค้าเพื่อขายคนทั้งโลกแทนครับ นี่คือเป้าหมายต่อไปและเมื่อเราวิเคราะห์ความผลลัพธ์ของการทำ Brand & Business Transformation รอบนี้

จากตลาด Local ไปเป็น Global เราสร้างคุณค่าอะไรบ้าง? และช่วยประเทศเราอย่างไร? ทั้งนี้ก่อนจะลงมือทำอะไร เราต้องมองก่อนว่าจุดมุ่งหมายเชิงคุณค่าที่ให้กับสังคม ให้กับลูกค้า และประเทศของเรานั้นมีอะไร? ถ้าเราสามารถตั้งหลักในการมีคำตอบเรื่องนี้ได้ก็ถือว่า “จุดมุ่งหมายเชิงคุณค่า” ผ่านการเดินต่อนั้นก็จะทรงพลังมากขึ้น เรามาดูกันนะครับว่าสิ่งที่ได้จากการที่แบรนด์นี้มีนโยบายก้าวสู่ Global Brand ก่อให้เกิดคุณค่าอะไรบ้าง?

เรามาดูกันนะครับว่าถ้าแบรนด์โคมไฟระดับพรีเมียมของประเทศไทยกลายเป็น Global Brand เกิดอะไรขึ้น?

1. ความภาคภูมิใจให้กับคนไทยในประเทศ และเป็นการสร้างแบรนด์ประเทศไทย (Boost Up Thailand Brand) ด้านการออกแบบและงานฝีมือสู่สายตาชาวโลก

เรื่องนี้เราไม่ค่อยได้พูดกันในหมู่ของเจ้าของแบรนด์ เพราะเรามองว่าการสร้างแบรนด์ประเทศไทยต้องใช้เม็ดเงินเยอะ ๆ ให้รัฐบาลไปสื่อสารหรือออกแคมเปญออกมา ซึ่งผมคิดว่าการสร้างแบรนด์แบบใช้งบรัฐไปทำโฆษณานั้นเป็นเพียงแค่ระยะสั้นเท่านั้น ไม่ยั่งยืนครับ การทำให้แบรนด์ประเทศไทยให้เกิดในเวทีโลก ต้องผลักดันเจ้าของแบรนด์ในประเทศให้กลายเป็นโกลบอลแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จให้มากขึ้นกว่านี้ ซึ่งในปัจจุบันเราถือว่าประเทศไทยมีโกลบอลแบรนด์น้อยมากครับ เมื่อแบรนด์ไทยได้รับการยอมรับในตลาดโลก แบรนด์ประเทศก็แข็งแรงตามไปด้วยนั่นเอง

2. สร้างโอกาสและสนับสนุนให้กับมืออาชีพเป็นการส่งเสริมสร้างสรรค์ (Boost Up Design & Creative Economy) นักออกแบบ, สถาปนิก, นักการตลาด และนักสร้างแบรนด์ในประเทศให้มีโอกาสแสดงฝีมือในเวทีโลก

สำหรับข้อนี้ผมก็เห็นว่ารัฐบาลเราหลาย ๆ ชุดพยายามอย่างยิ่งที่จะปลุกปั้น Creative Economy หรือ Soft Power แต่ก็ต้องบอกว่ายังมองไม่สุดในเรื่องการทำให้ Key Results ต้องเกิดเป็น Global Brand ได้อย่างแท้จริง จึงจะทำให้แรงงานในอุตสาหกรรมนี้มีพื้นที่หรือมีโอกาสแสดงผลงานจริง ๆ ในเวทีโลกโดยไม่ต้องรอแค่โครงการจากภาครัฐ หรือทำแค่ในระดับ OTOP นั้นไม่พอครับ ต้องผลักดันธุรกิจหรือแบรนด์ที่มีความพร้อมมากกว่าให้ก้าวไปสู่ความเป็น Global Brand ถ้าทำได้นั่นแหละครับ อุตสาหกรรมสร้างสรรค์จะเกิดขึ้นเป็นจุดเด่นประเทศเราอย่างแน่นอนครับ

3. สร้างเงินหมุนเวียนให้เกิดขึ้นกับระบบห่วงโซ่ทางเศรษฐกิจในประเทศ (Boost Up Supply Chain) อาทิ การจ้างแรงงานที่มีคุณภาพ และการจ้าง Supplier ในประเทศ

สำหรับในประเด็นนี้คือการลดหนี้ครัวเรือนในประเทศ และทำให้อุตสาหกรรมแรงงานฝีมือต่าง ๆ ในประเทศที่มีความ Craft เป็นช่างที่มีฝีมือที่มีคุณภาพต่าง ๆ ได้เกิดการจ้างงานภายในประเทศ ทำให้ครัวเรือนซึ่งอุตสาหกรรมฝีมือแรงงานนี้มักจะเป็นกลุ่มชุมชนช่างที่กระจายตัวในที่ต่าง ๆ ได้ทำงานอยู่ในพื้นที่ตนเองและมีรายได้จากการจ้างผลิตโคมไฟ จ้างการตีเหล็ก ตีทองเหลือง ที่เป็นช่างฝีมือที่ประเทศเรามีความโดดเด่นมากทำให้ห่วงโซ่เศรษฐกิจในประเทศกลุ่มนี้ยังอยู่ได้และขยายตัวต่อไปได้ ทำให้เงินหมุนเวียนกลับมาในประเทศเรามากยิ่งขึ้น

4. ข้อนี้ขาดไม่ได้คือ ยกระดับคุณค่าที่ส่งมอบให้ลูกค้า (Boost Up Customer Value) หรือผู้บริโภคทั้งเจ้าของโครงการ และเจ้าของบ้าน ได้ของคุณภาพดี มีความภาคภูมิใจในแบรนด์ ในราคาที่ถูกลงมากขึ้น

ประเด็นนี้ก็สำคัญไม่แพ้ทั้งสามข้อที่กล่าวมาครับ หากแบรนด์ในประเทศมีแบรนด์ที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนซื้อได้จริง ๆ เหมือนแบรนด์แฟชั่นระดับโลก เราจะทำให้ผู้บริโภคบ้านเราได้ของดีมีแบรนด์ในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น เพราะไม่ต้องโดนภาษีนำเข้าและภาษีตัวอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งอาจสูงถึง 70% ยิ่งภาวะสงครามการค้าเกิดขึ้นทั่วโลก เรื่องนี้ยิ่งทำให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้นไปอีกครับ ผู้บริโภคไทยอยากอุดหนุนสินค้าแบรนด์ไทย ผมเชื่ออย่างนั้น ถ้าแบรนด์ไทยสามารถสร้างคุณค่าในแบรนด์ที่มากกว่าแค่ตัวคุณภาพสินค้าเท่านั้น (คุณภาพสินค้าสำคัญแต่ยังไม่พอครับ ต้องสร้างคุณค่ามากกว่านี้)

ในบทนี้ผมสรุปจากประสบการณ์ตรงแบบย่อ และให้เห็นว่านี่แค่แบรนด์เดียวของอุตสาหกรรมโคมไฟตกแต่งนะครับ ยังสร้างประโยชน์ให้กับระบบเศรษฐกิจในประเทศขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นภาพรวมทุก ๆ แบรนด์ทำพร้อมกันเป็นร้อยเป็นพัน จะเกิด Impact ต่อเศรษฐกิจ สังคม และความสุขของคนในประเทศมากแค่ไหน ลองนึกภาพดูนะครับว่าที่ผมสรุปมาให้จริงหรือไม่?

———————————————————————–
📍ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : 088-2236546 (คุณเอม) Sutthinee.b@baramizi.co.t