เครื่องแต่งกายเป็นปัจจัยพื้นฐานที่คนทุกคนจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเครื่องแต่งกายเหล่านี้ก็มีความหลากหลาย และแตกต่างกันเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของคนในแต่ละพื้นที่ทั่วโลก เครื่องแต่งการมีการเปลี่ยนแปลง และพัฒนามาโดยตลอด เพราะผลกระทบที่ได้รับมาจากการเปลี่ยนไปของพฤติกรรม และทัศนคติของผู้บริโภคในช่วงเวลานั้น ทำให้หลายแบรนด์ในวงการเครื่องแต่งการต้องมีการปรับตัว และทำความเข้าใจผู้บริโภคเพื่อสร้างสิ่งใหม่ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนในปัจจุบัน
Trend Fast Track วันนี้เราจะพาไปดูว่าวงการเครื่องแต่งกาย หรือแม้กระทั่วธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีการปรับตัว หรือสร้างสรรนวัตกรรม เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างไรบ้าง
[เดนมาร์ก] SilverTech2.0 “ชุดชั้นในที่ใส่ได้นานเป็นสัปดาห์” เป็นผลงานรุ่นที่ 2 ของ Organic Basics สตาร์ทอัพสัญชาติเดนมาร์กที่ออกมา บอกว่าอยากให้แฟชั่นเป็นอุตสาหกรรมรักษ์โลก ซึ่งในที่นี้ การลดจำนวนครั้งในการซักก็น่าจะช่วยโลกได้เช่นกัน ส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ชุดชั้นในนี้ใส่ได้นานก็คือโลหะเงิน โดยทางผู้พัฒนาได้นำสารประกอบโลหะเงินไปเคลือบเอาไว้ที่เนื้อผ้า ทุกส่วนของเนื้อผ้าผลิตจากวัตถุดิบรีไซเคิล 100% (เป็นไนลอนที่ได้จากกระบวนการรีไซเคิล) ส่วนกระบวนการแทรกโลหะเงินเข้าไปนั้นก็ได้รับการรับรองจาก Bluesign System แล้วด้วย ซึ่งทางทีมระบุว่าสามารถช่วยฆ่าแบคทีเรียได้ 99.9% อีกทั้งยังกำจัดกลิ่นที่เกิดกับเนื้อผ้าได้ด้วย ด้วยเหตุนี้ ทางทีมงานจึงบอกว่ามันจะประหยัดมากเลยทีเดียว เพราะทำให้ไม่ต้องซักผ้าบ่อย ๆ แถมยังประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ และในท้ายที่สุดก็คือประหยัดเงินด้วย โดยเป้าหมายของการก่อตั้ง Organic Basics คือการเป็น Sustainable Fashion ที่สวนทางกับธุรกิจแฟชั่นรูปแบบเดิม คือแทนที่จะซื้อเสื้อผ้ามาแล้วก็ต้องซักทำความสะอาดบ่อย ๆ จนสุดท้ายก็ทำให้เนื้อผ้าหมดสภาพไป และต้องโยนทิ้งกลายเป็นขยะในที่สุด มาเป็นเสื้อผ้าแบบที่ทำความสะอาดเพียงเดือนละไม่กี่ครั้งก็เพียงพอ ชุดชั้นในเหล่านี้จึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับโลกในอนาคต โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อม เห็นได้จากยอดขายของ Organic Basics ที่แม้ราคาต่อแพ็กจะสูงถึง 50 – 60 เหรียญสหรัฐ แต่ปัจจุบัน พวกเขาก็สามารถขายชุดชั้นในนี้ให้กับลูกค้าได้มากกว่า 50,000 คนแล้ว หรือคิดเป็นจำนวนกว่า 200,000 ตัวเลยทีเดียว สอดคล้องกับผลการสำรวจของ Nielsen ที่พบว่า กลุ่มมิลเลนเนียลมากถึง 73% ยอมจ่ายเงินแพงขึ้นได้ หากสินค้านั้น ๆ ช่วยให้สภาพแวดล้อมยั่งยืนมากขึ้น
[อิตาลี] ‘Juventus’ สโมสรฟุตบอลชื่อดังในอิตาลี ที่ต้นสังกัดเสื้อจาก adidas ได้ร่วมมือกับ palace ในการออกเเบบชุดเเข่งใหม่ในฤดูการ 2019-2020 ที่ได้ตัวอย่างจากชุดเเข่งในปี 1980 เปิดตัวชุดโดยมีการออกแบบจาก กระแสแฟชั่นสตรีทที่กำลังมาเเรงในหมู่คนทั่วไป จากการที่เราเห็นคนนิยมนำชุดกีฬามาใส่ในเชิงแฟชั่นมากขึ้นทั้งผู้หญิง และผู้ชาย จึงเป็นตัวกระตุ้นให้หลายเเบรนด์กีฬาต่างปรับสินค้าให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น
[อังกฤษ] ‘Ecover’ แบรนด์น้ำยาทำความสะอาดผ้าของเมืองผู้ดีได้ออกสินค้าใหม่ ร่วมกับแบรนด์น้ำหอมที่จะสื่อสารถึงกลิ่มหอมที่สามารถดมได้ไม่มีวันเบื่อ ซึ่งหลังจากที่มีการทดลองและค้นหากลิ่นที่ได้นั่นก็คือกลิ่นของเด็กทารก “nothing smells as good as babies” เพื่อสื่อสารถึงความอ่อนโยนของเด็ก ทางแบรนด์จึงได้ใช้สารตั้งต้นอย่าง นมและนมถั่วเหลือง เพื่อทำน้ำยาทำความสะอาดผ้าที่ไม่มีสารเคมีเเละลดการแพ้ต่างๆ ในการสวมใส่เครื่องแต่งกายได้
https://www.youtube.com/watch?v=c-wDB27dEMM
[แอฟริกา] ‘Dior’ ออกเสื้อผ้า Collection ใหม่ #DiorCruise 2020 ที่ร่วมมือกับ Sttudio Wax ที่แอฟริกา โดยออกแบบเสื้อผ้าที่เป็น 100% WAX fabrics และมีลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องแต่งกายพื้นเมืองในแอฟริกา หลังจากที่ปล่อย Collection นี้ออกสื่อไปแล้วทำให้มีชาวแอฟริกันจำนวนหนึ่งมาแสดงความคิดว่า Collection นี้ของ Dior ไม่ได้แตกต่างอะไรจากเสื้อผ้าที่พวกเขาใส่อยู่ บ้างก็ว่า Dior ขโมยเสื้อผ้าของพวกเขาไป
จากประเด็นนี้จะเห็นว่าความ sensitive ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันมีค่อนข้างมาก และไม่ใช่ทุกแบรนด์ที่จะออกแบบสินค้าใหม่มาแล้วจะประสบความสำเร็จทุกครั้งแม้แต่แบรนด์ใหญ่ๆ ก็ตาม ดังนั้นไม่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่ ‘ความเข้าใจ’ ในผู้บริโภคเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ไม่ใช่เพื่อจะขายของให้กับคน แต่เพื่อให้คนจดจำเราและนึกถึงเราก่อนเสมอ
🔥 Trend Fast Track เทรนด์สดใหม่เสิร์ฟร้อน 🔥 โดย Baramizi Lab ศูนย์วิจัยคอนเซปต์แห่งอนาคตและการออกแบบ เราได้ทำการ Spot กรณีศึกษา (Case Study) จากข่าวสารแหล่งต่างๆ และศึกษาเทรนด์การออกแบบประสบการณ์เด็ดๆ อะไรที่แบรนด์พร้อมใจกันสร้าง และ Launchออกมาทั่วโลกในแต่ละสัปดาห์