ในช่วงเวลาแห่งปีที่หลายแบรนด์แฟชั่นมักจะต้อนรับปีใหม่ด้วยการออกคอลเลคชั่นใหม่เมื่อฤดูกาลเปลี่ยนไป อย่างไรก็ตามในขณะที่โลกของเราเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมายในแต่ละปี ผู้คนแสวงหาสิ่งที่จะให้คุณภาพชีวิตของพวกเขาดีขึ้นในทุกๆ ด้าน ไม่เว้นแม้แต่เรื่องแฟชั่นเช่นกัน
ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาแฟชั่นได้สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่โลกดำเนินไป แหล่งข่าวหลายแหล่งกล่าวว่า หลายคนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองต้องปฏิบัติตามการกฏข้อบังคับด้วยการแบ่งปันเสื้อผ้าบางส่วนให้กับคนอื่นอย่างทั่วถึง ซึ่งทำให้พวกเขามีเสื้อผ้าไม่มากเท่าที่ต้องการและด้วยวัสดุบางอย่างที่ไม่สามารถใช้ได้ พวกเขาจึงต้องผลิตเสื้อผ้าด้วยวัสดุคุณภาพต่ำที่ยังมีอยู่หรือของใหม่จากวัสดุที่สร้างขึ้นด้วยตัวเอง แต่ทิศทางของแฟชั่นนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทันทีที่เวลาได้เปลี่ยนผ่านไป ตัวอย่างเช่นเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง Dior แฟชั่นเฮาส์ได้สร้างรูปลักษณ์ใหม่ที่เน้นกระโปรงขนาดใหญ่และเอวเล็ก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนในการเฉลิมฉลองและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
สำหรับ Trend Fast Track สัปดาห์นี้จะพาทุกท่านเจาะลงไปในวงการแฟชั่น จากวิกฤตทางด้านสุขภาพที่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้คาดว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางแฟชั่น เชื่อกันว่าเสื้อผ้าที่มีสีสดใสจะเป็นเทรนด์ถัดไปของยุคที่เรียกว่า “ new normal” เนื่องจากผู้คนพยายามที่จะแสดงความรู้สึกอิสระหลังจากที่ใช้เวลากักตัวอยู่แต่ในบ้านมายาวนาน นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าผู้คนกระหายหาทางออกที่สร้างสรรค์ในช่วงการแพร่ระบาดนี้อย่างไร
[Japan] ไฮเอนให้สุด เมื่อญี่ปุ่นมีแคมเปญต่อสู้โคโรน่าด้วยหน้ากากป้องกันไวรัสไฮเอน ราคา 1 ล้านเยน ส่งเสริมกำลังใจ กระตุ้นยอดขาย และนำรายได้ไปแบ่งปัน
ขณะนี้ผู้กำหนดเทรนด์ของญี่ปุ่นสามารถป้องกันไวรัสโคโรนาได้อย่างหรูหราด้วยหน้ากากอันหรูหราที่ประดับด้วยเพชรและไข่มุกในราคาอันละ 1 ล้านเยน (9,600 ดอลลาร์) บริษัท ในเครือ Mask.com ของ Cox Co. เริ่มขายหน้ากากทำมือเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้กำลังใจผู้คนและกระตุ้นยอดขายในอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ตกต่ำจากการระบาดของ COVID-19 หน้ากากเพชรประดับด้วยเพชร 0.7 กะรัตและคริสตัลสวารอฟสกี้มากกว่า 300 ชิ้นในขณะที่หน้ากากไข่มุกมีไข่มุก Akoya จากญี่ปุ่น 330 เม็ด “ ทุกคนรู้สึกหดหู่เพราะไวรัสโคโรนาและจะดีมากถ้าพวกเขารู้สึกดีขึ้นด้วยการดูหน้ากากแวววาวเหล่านี้” อาซึสะคาจิทากะเจ้าหน้าที่ดูแลหน้ากากที่ร้านของ บริษัท ใกล้สถานีโตเกียวกล่าวไว้
Credit : https://www.japantimes.co.jp/culture/2020/11/29/arts/luxury-face-masks/
จากข้อมูล พบว่าเหล่าผู้บริโภคเลือกที่จะสวมชุดลำลองในขณะทำงานที่บ้านมากขึ้น ซึ่งในช่วงแปดเดือนที่ผ่านมายอดขายเสื้อผ้าเลานจ์พุ่งสูงขึ้นโดยผู้ค้าปลีก เช่น Vestiaire และ Net-A-Porter รายงานว่ามียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 70% ในขณะที่ Asos เห็นกำไรต่อปีเพิ่มขึ้น 329% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความต้องการเสื้อผ้าลำลอง และเพื่อเป็นการระดับชุดเลานจ์ให้มีความน่าสนใจและสามารถใส่ในโอกาสอื่นๆนอกจากแค่เพียงในบ้าน เนื่องจากเป็นชุดที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายสะดวกสบาย แต่ในขณะเดียวกันผู้บริโภคก็ยังคงต้องการที่จะแต่งกายเพื่อแสดงความมีอัตลักษณ์ทางจิตวิญญาณและสามารถใช้ชีวิตในบ้านและการทำงานได้อย่างสมดุลอีกด้วย
[UK] HOUSE OF FRASER เปิดตัว ‘DRESS-IN GOWN’ ในช่วงคริสต์มาส
ตั้งแต่การขายการแพร่ระบาดของ coronavirus ยอดขายชุดลำลอง (Lounge) เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะชุดผ้าที่สวมใส่สบาย ใช้ผ้าคาดเอว, กางเกงวอร์มแบบหลวม, เสื้อสเวตเตอร์ และชุดนอน และระหว่างเดือนมีนาคมถึงเมษายนของปีนี้ยอดขายชุดนอนของสหรัฐเพิ่มขึ้น 143 เปอร์เซ็นต์ในขณะที่ยอดขายชุดชั้นในลดลง 13 เปอร์เซ็นต์ตามข้อมูลจาก Adobe Analytics ด้วยการอยู่ในบ้านหลายชั่วโมงทำให้รู้สึกว่าพวกเราหลายคนแสวงหาความสะดวกสบายมากกว่าสไตล์ House of Fraser กล่าวว่าหวังที่จะเชื่อมช่องว่างระหว่างความสะดวกสบายและการแต่งตัวแบบหลุยส์ด้วยข้อเสนอแบบใหม่ล่าสุดของพวกเขาซึ่งมีคุณสมบัติควบคู่ไปกับการตัดเย็บเสื้อผ้าที่นุ่มนวลและชุดนอนสุดหรูในคอลเลคชั่นที่ชื่อว่า ‘Dress-in-Gown’
[Thailand] ผ้าไหมแนวทางใหม่ ในวิถีนิวนอร์มัล (New Normal) FASHION VDO : VIRTUAL ROUTINES
ผลงานวิจัย การผสมผสานเส้นไหมผสมวัสดุอื่นจากการทอผ้าทอมือ จากการทอผสม ไหมไทย ไหมลืบ ไหมแลง ไหมโรงงาน ไหมคิบิโซ่ ไหมอีรี่ กัญชง ฝ้าย มาเป็นผ้าไหมทอมือผ้าไหมแนวทางใหม่ ในวิถีนิวนอร์มัล (New Normal) ใน โครงการ ไหมไทยสร้างสรรค์ 2020: การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมผสมเส้นใยอื่น (Creative Thai Silk 2020: Products development from Combination of silk yarn with other materials) โดย กรมหม่อนไหม ร่วมกับ หลักสูตรแฟชั่น สิ่งทอและเครื่องตกแต่ง วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
Credit : https://fashswu.com/?p=1654
ซึ่งวิกฤตที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างรุนแรง ส่งผลให้แบรนด์ Fast Fashion หลายแบรนด์ต้องปิดกิจการและหยุดการผลิต ผู้บริโภคเกิดความตระหนักและมีสติในการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น สิ่งเหล่าจึงเป็นโอกาสที่ทำให้แบรนด์ในระดับท้องถิ่นได้รับความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากผู้คนหันมาใส่ใจกับปัญหาในอุตสาหกรรม Fast Fashion และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น และให้ความสำคัญกับแบรนด์ระดับท้องถิ่นที่ถือว่าเป็นสินค้าที่มีความพิเศษกว่า สิ่งเหล่านี้เป็นข้อบ่งชี้ว่าเทรนด์แฟชั่นเรื่องของวิถีชีวิตที่ยั่งยืนจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะมาถึงเร็วยิ่งขึ้น
[USA] Adidas ตั้งเป้าผลิตสินค้าที่ทำมาจากวัสดุรีไซเคิลให้ได้ 60% ภายในปี 2021
แบรนด์กีฬาชื่อดัง Adidas ได้ตั้งเป้าผลิตสินค้าที่ทำมาจากวัสดุรีไซเคิลให้ได้ 60% ของทั้งหมดภายในปี 2021 ไม่ว่าจะเป็นรีไซเคิลโพลีเอสเตอร์และฝ้ายแบบยั่งยืน ซึ่งจะเปลี่ยนสินค้าทั้งประเภทกีฬาอย่างเสื้อฟุตบอล และฝั่งไลฟ์สไตล์อย่างรองเท้าสนีกเกอร์ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ไม่นานหลังจากที่ Adidas ประกาศว่าจะผลิตหนึ่งในรองเท้ารุ่นที่ขายดีที่สุดของแบรนด์อย่าง Stan Smith โดยใช้วัสดุรีไซเคิลแบบยั่งยืนตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นไป ทางแบรนด์ได้ออกมาเดินหน้าประกาศตั้งเป้าหมายที่จะผลิตสินค้าแบบยั่งยืนให้ครอบคลุมมากกว่าแค่รองเท้า
ความยั่งยืนเป็นส่วนสำคัญปรัชญาธุรกิจของ Adidas ที่ได้ลงทุนกับเรื่องนี้ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และขยายการผลิตสินค้าแบบยั่งยืนออกไปอีกในปี 2021 โดยได้ร่วมงานกับซัพพลายเออร์ในการผลิตวัตถุดิบแบบยั่งยืนในปริมาณที่ใหญ่ และนี่ไม่ใช่แค่ทำให้แบรนด์ยั่งยืน แต่ยังส่งให้อุตสาหกรรมแฟชั่นขับเคลื่อนการพัฒนาต่อไปด้วย
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา Adidas บริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงถึง 4.49 หมื่นล้านดอลลาร์ ได้ลงทุนกับเรื่องเทคโนโลยีการผลิตสินค้าที่ทำมาจากวัสดุรีไซเคิลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมื่อปี 2015 ทางแบรนด์ได้ร่วมมือกับ Parley for the Oceans องค์กรพิทักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลในการเก็บขยะพลาสติกในมหาสมุทรได้ถึง 7,000 ตันมาผลิตเป็นรองเท้าได้มากถึง 15 ล้านคู่
นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังขยายไปยังวัสดุอื่นๆ ที่สามารถทดแทนได้ อย่างเช่นหนังแท้ ที่อาศัยการผลิตวัสดุคล้ายหนังที่ทำมาจากพืช นำเสื้อผ้าที่ใช้แล้วมาปั่นเป็นเส้นด้ายใหม่ รวมไปถึงการยุติการใช้ขนสัตว์แท้ ซึ่งทำให้ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาทางแบรนด์ได้ลดค่าคาร์บอนฟุตพรินต์ลงถึงร้อยละ 50 เพื่อให้ไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศสุทธิเพิ่มขึ้นจากการดำเนินธุรกิจหรือการบริการของผลิตภัณฑ์ (Carbon Neutral) ภายในปี 2050
[Africa] Black Thread Runs Deep at this New Swedish Exhibition!
งานแสดง Black Thread ต้องการฉายมุมมองใหม่ของทวีป Africa Black Thread ขุดเอามรดกทางวัฒนธรรมของ แอฟริกันตะวันตก ทประเพณีด้านสิ่งทอที่นักออกแบบหยิบเอาไปใช้ ทั้งการทอ การตัดเย็บ ตลาด สี วัสดุ และการตัดเย็บ ซึ่งไปมากกว่ารูปแบบที่เราเห็นกันจนคุ้นตาอย่าง printed fabrics, waxprint และ ankara
[Brazil] Levi’s teams with Farm Rio on Brazilian-inspired collection
Levi’s ได้ร่วมมือกับ Farm Rio แบรนด์สัญชาติบราซิลเพื่อเปิดตัวการทำงานร่วมกันที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการเคลื่อนไหวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ
ทั้งสองแบรนด์ได้สร้างสรรค์คอลเลกชั่นที่รวบรวมโทนสีเขตร้อนและแรงบันดาลใจของ Farm Rio เข้ากับสไตล์ Denim อันเป็นสัญลักษณ์ของ Levi คอลเลกชั่นนี้มี 16 ชิ้น ได้แก่ แจ็คเก็ต Trucker, กางเกงยีนส์, เสื้อยืด, เดรส, กางเกงขาสั้นเดนิม, จั๊มสูท และเสื้อสเวตเตอร์ แต่ละชิ้นได้รับการออกแบบด้วยภาพพิมพ์พิเศษเฉพาะของ Farm Rio ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของบราซิลเขตร้อนและมีชีวิตชีวา
การทำงานร่วมกันนั้นครอบคลุมมากกว่าการนำเสนอผลิตภัณฑ์ Levi’s และ Farm Rio ยังร่วมมือกันเพื่อช่วยเหลือองค์กร SOS Mata Atlantica และ One Tree Planted ในการปลูกต้นไม้พื้นเมือง 14,000 ต้นเพื่อช่วยรักษาและฟื้นฟูป่าของบราซิล
Credit : https://fashionweekdaily.com/sjps-new-favorite-line-farm-rio-collaborates-with-levis/
การใช้วัสดุที่ยั่งยืนสำหรับแฟชั่น ต่อจากนี้จะกลายเป็นหลักการสำคัญของแบรนด์ท้องถิ่นหลายๆ แบรนด์ ซึ่งในช่วงที่มีการแพร่ระบาดนี้ ผู้คนจะคิดอย่างรอบคอบมากขึ้นและตระหนักว่าความยั่งยืนไม่เพียงแต่เกี่ยวกับแฟชั่นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงไลฟ์สไตล์ที่พวกเขาและครอบครัวเลือกที่จะเป็นผู้นำ อย่างเช่นการเลือกสวมใส่แบรนด์ท้องถิ่นเพื่อแสดงถึงความภาคภูมิใจและยังเป็นการต่อต้านการมีส่วนร่วมในแฟชั่นฟาสต์แฟชั่นที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
สรุปคือ เทรนด์แฟชั่นในเรื่องของ New Normal การยกระดับชุดลำลองเพื่อตอบรับพฤติกรรมการอยู่บ้าน และแบรนด์ท้องถิ่นจะได้รับความนิยมมากขึ้น และสิ่งสำคัญคือเรื่องของการใช้วัสดุเพื่อความยั่งยืนของอุตสาหกรรมสิ่งทอจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่ทุกแบรนด์ต้องคำนึงถึง ท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นและไวขึ้น อาจจะเป็นโอกาสที่สำคัญที่พวกเราจะได้เห็นคอลเลคชั่นใหม่ๆ ร่วมกันระหว่างแบรนด์หรือนักออกแบบท้องถิ่นมากขึ้นก็เป็นได้
🔥 Trend Fast Track เทรนด์สดใหม่เสิร์ฟร้อน 🔥 โดย Baramizi Lab ศูนย์วิจัยคอนเซปต์แห่งอนาคตและการออกแบบ เราได้ทำการ Spot กรณีศึกษา (Case Study) จากข่าวสารแหล่งต่างๆ และศึกษาเทรนด์การออกแบบประสบการณ์เด็ดๆ อะไรที่แบรนด์พร้อมใจกันสร้าง และ Launchออกมาทั่วโลกในแต่ละสัปดาห์
#FutureLabResearch #ResearchForBusiness #FutureTrendResearch#TrendFastTrack2020 #WisdomDrivetheFuture