Trend Fast Track : It’s Together Time

Trend Fast Track ประจำสัปดาห์นี้ขอเสนอหัวข้อเทรนด์เรื่อง :
“It’s Together Time” (ช่วงเวลาแห่งการเชื่อมโยง เพื่อการใช้ชีวิตร่วมกัน) ในโลกที่อะไรๆ ก็เข้าถึงกันได้หมดลองดูว่าแนวโน้มของการอยู่ร่วมกันมีผลกับชีวิตของคนบนโลกอย่างไร

• ‘สองหัวดีกว่าหัวเดียว’ เป็นคำที่เราได้ยินมาตลอดซึ่งความหมายก็ชัดเจนในตัวมันเองอยู่แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่จะพูดถึง Trend ในสัปดาห์นี้ที่จะเน้นคำว่า ‘Together’ ก็คือการอยู่ร่วมกัน ทำไมการอยู่ด้วยกันถึงดี? อยู่ด้วยกันแล้วมันเป็นประโยชน์อย่างไร ลองตามมาดูกันว่า Together ของแต่ละประเทศที่แบรนด์ต่างๆ นำเสนอจะมีความน่าสนใจ และแตกต่างกันอย่างไร

• เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีปัจจุบันทำให้คนเราเข้าถึงกันง่ายขึ้น ระยะทางไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป แต่ถึงอย่างนั้นกลับเพิ่มระยะห่างของความสัมพันธ์ของคนมากขึ้น เพราะการเข้าถึงสิ่งต่างๆ ได้ง่ายทำให้ สิ่งรอบตัวถูกมองข้ามไป’Together’ ที่เราจะพูดถึงนี้ไม่ใช่การ collaboration ของแบรนด์แต่อย่างใด แต่เป็นการที่แบรนด์ต่างๆ ได้มีการดึงคนให้มาอยู่ร่วมกันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี สร้างประสบการณ์ที่ดี และเกิดเป็นสิ่งใหม่ๆ ที่ทำให้คนได้ใกล้กันมากขึ้น

• ในช่วงเวลาที่คนรู้สึกห่างกันมากขึ้น หลายๆแบรนด์ก็มีการนำเสนอถึงสิ่งดีๆ ของการอยู่ร่วมกันเพื่อให้คนเริ่มเห็นความสำคัญกับสิ่งที่ควรให้ความสำคัญมากขึ้น โดยเรายกกรณีศึกษาจากทั่วทุกมุมโลกมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ตามนี้ครับ

1.[ไทย] Blend 285 แบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ได้ทำแคมเปญ ‘Let’s Blend’ ที่นำเสนอข้อเสียของ Social Media ที่ทำให้คนห่างกัน และปลุกให้คน ‘เปิดใจ เปิดโอกาส’ สร้างความสุขจากการอยู่ร่วมกันกับเพื่อน โดยทำเป็นคลิปสั้นๆ กระตุ้นให้คนตระหนักถึงการใช้เวลาร่วมกัน เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต


Source : http://www.brandage.com/article/10139/BLEND-285

2. [มาเลเซีย] เข้ากับช่วงเทศกาล CIMB ปล่อยโฆษณา “You-Sang, We-Sang” สุขสันต์วันตรุษจีน โดยนำเอาวัฒนธรรมร่วม You-Sang ซึ่งเป็นอาหารที่คนในกลุ่มประเทศ Asean มักจะนิยมนำมาท่านร่วมกันในครอบครัวเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน CIMB ถือโอกาสสวัสดีปีใหม่จีนกับลูกค้าโดยหยิบเอาวัฒนธรรม ที่น่ารักและอบอุ่นนี้มานำเสนอผ่าน Ad ที่ไม่ Hardsale แต่เน้น นำเสนอคุณค่าที่ล้อไปกับสโลแกนของแบรนด์ที่ว่า “Forward Togetherness”

Source : https://www.thedrum.com/news/2019/01/31/ads-we-cimb-pokes-fun-claims-the-origins-auspicious-chinese-new-year-dish-yee-sang

3. [สิงคโปร์]  Singtel ปล่อยโฆษณาสุขสันต์วันตรุษจีน โดยเล่าเรื่องของวัยรุ่นที่อยู่ในมหาวิทยาลัยที่พวกเขาได้จากบ้านมาและไม่ได้อยู่ร่วมฉลองตรุษจีนกับครอบครัวเป็นครั้งแรก ซึ่งแบรนด์ได้ดึงเอา Insight ของคนสิงคโปร์ที่โอบคลุมไว้ด้วยวัฒนธรรมจีน สะท้อนความเบื่อหน่ายของวัยรุ่นจีนที่อยากอิสระจากขนบประเพณี แต่เหนือไปกว่าเรื่องประเพณีมันคือวัฒนธรรมแห่งครอบครัวและความอบอุ่น ซึ่งแบรนด์ได้ปูให้เห็นถึงความสำคัญของครอบครัวได้ซึ้งและกินใจให้คนได้สัมผัสถึงการเชื่อมถึงกันภายใต้สโลแกน “Feel the connection”

Source : https://www.thedrum.com/creative-works/project/singtel-ma-with-love

4. [เนอเธอร์แลนด์] จะเกิดอะไรขึ้น? ถ้านักท่องเที่ยวที่รอขึ้นเครื่องบินสามารถแลกเปลี่ยนเคล็ดลับแบบตัวต่อตัวกับคนท้องที่ของประเทศปลายทางในสนามบิน KLM Royal Dutch Airlines ได้สร้าง “บาร์” ที่นักเดินทางเหล่านี้สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนเคล็ดลับและได้คำแนะนำในการท่องเที่ยวจากคนท้องถิ่น ด้วยการเชื่อมต่อแบบ Real Time ที่ผู้โดยสารสามารถพูดคุยกับผู้โดยสารประเทศอื่นผ่านโฮโลแกรม KLM เปิดตัวแคมเปญ Take-Off Tips ในหลายประเทศ เช่น นอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ก สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และบราซิล โดยแนวคิดนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวได้รับเคล็ดลับในการเดินทางในท้องถิ่นที่ดีที่สุดจากคนท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ ได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศที่แท้จริง”

Source : https://standbynordic.com/klm-hologram-bars-launch-in-nordics/

5. [แอฟริกา] IKEA จับมือกับดีไซน์เนอร์ท้องถิ่นในแอฟริกา เพื่อออกแบบ Collection ใหม่ Överallt ในปี 2019 ทั้งผลิตภัณฑ์ภายในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และ แฟชั่น โดยอิเกียเน้นการทำเวิร์คชอปร่วมกันกับดีไซเนอร์หลายประเทศในฝั่งทวีปแอฟริกาเพื่อให้เกิดการ Collaboration จริงๆ โดยมี Theme ว่า Urban Rituals (โดยให้แต่ละคนนำเสนอเอกลักษณ์ของตัวตนออกมา) เริ่มเปิดตัวในงาน Design Indaba Festival โดยต้องการให้ Överallt Collection สามารถสร้าง encourage และ trigger ผู้คนให้เกิดการรวมตัวกัน มาทานอาหาร แบ่งปันเรื่องราว สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ และใช้เวลาร่วมกันกับผู้อื่น เปรียบ Överallt เป็นเหมือน palette of socialising tools

Source : http://ikea.today/checking-with-overallt/

6. [ไนจีเรีย] Nike นำเสนอวัฒนธรรมท้องถิ่นไนจีเรียผ่านทางเสื้อฟุตบอล สานต่อความสำเร็จที่ได้จากเสื้อฟุตบอลของทีมชาติไนจีเรียใน World Cup football ที่ขายหมดภายในไม่กี่นาที โดยสร้างจากร่วมมือกับวัยรุ่นชาวไนจีเรียที่เป็นกลุ่มเป้าหมายทำออกมาเป็นเสื้อฟุตบอลที่มีลายผ้าท้องถิ่น และสกรีนรหัสโทรศัพท์ของประเทศอยู่ที่แขน ด้านหลังสกรีนว่า ile แปลว่าบ้านในภาษา Yoruba (ภาษาท้องถิ่นของไนจีเรีย) โดยแคมเปญนี้จะช่วยลบข่าวร้ายๆเกี่ยวกับประเทศไนจีเรียที่สื่อตะวันตกเผยแพร่ออกไป มีจุดประสงค์เพื่อทำให้คนไนจีเรียเกิดความภาคภูมิในในประเทศ แล้วกลับมาที่บ้านเกิด
Source : http://urbanpitch.com/the-nike-x-the-native-football-shirt-doubles-down-on-naija/

🔥 Trend Fast Track เทรนด์สดใหม่เสิร์ฟร้อน 🔥 โดย Baramizi Lab ศูนย์วิจัยคอนเซปต์แห่งอนาคตและการออกแบบ เราได้ทำการ Spot กรณีศึกษา (Case Study) จากข่าวสารแหล่งต่างๆ และศึกษาเทรนด์การออกแบบประสบการณ์เด็ดๆ อะไรที่แบรนด์พร้อมใจกันสร้าง และ Launch ออกมาทั่วโลกในแต่ละสัปดาห์