คุณเคยสงสัยไหมว่า แบรนด์ท้องถิ่นจะสามารถเอาชนะยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง McDonald’s ได้อย่างไร?
เคล็ดลับอยู่ที่รอยยิ้มของเจ้าผึ้งน้อยสีแดง Jollibee แบรนด์ฟิลิปปินส์ที่ขยายอาณาจักรไปกว่า 1,700 สาขา ทั่วโลก นี่คือกรณีศึกษาของการใช้ “Power of Design” สร้างความผูกพันทางอารมณ์และวัฒนธรรม จนลูกค้ากลายเป็น Superfans ที่รักและภักดีต่อแบรนด์ในทุกช่วงวัย ในบทความนี้ เราจะ ถอดรหัสเส้นทางสู่แบรนด์ระดับโลก (Road to Global Brand) ของ Jollibee ผ่านทฤษฎี 5S Model ใน Stage แรก: Start-up ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่ง ความมันส์ (Passion) และ ความท้าทาย ที่ผู้ก่อตั้งต้องลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเองภายใต้ทรัพยากรที่จำกัด หัวใจสำคัญของ Stage นี้ คือ การใช้พลังแห่ง Passion และ ความคิดสร้างสรรค์ทั้งหมดที่มีเพื่อ “สปีดเข้าสู่ตลาด” และ “สร้างยอดขายให้เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด”

กลยุทธ์ที่จะทำให้แบรนด์เติบโตและแตกต่างเหนือคู่แข่งได้ จึงเน้น การสร้างความแตกต่างด้วย พลังการออกแบบ (Power of Design) ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างทั้ง Product Differentiation และ Brand Identity ผู้ประกอบการทุกคนจึงต้องโฟกัสการสร้าง Power of Design เป็นฐานแรกของแบรนด์ ซึ่ง Jollibee ก็ได้วางรากฐานด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ลูกค้าอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่เริ่มต้น
1. Signature Flavor Design: กลยุทธ์รสชาติที่คนฟิลิปปินส์รัก
หัวใจสำคัญของ Jollibee คือการ สร้างเอกลักษณ์ผ่านรสชาติและเมนูที่สะท้อนความทรงจำของผู้บริโภค แทนที่จะเลียนแบบมาตรฐานฟาสต์ฟู้ดสากล
• Comfort & Nostalgia: รสชาติที่คนฟิลิปปินส์คุ้นเคยตั้งแต่เด็ก เช่น Jolly Spaghetti ซอสหวานนำ เหมือนอาหารครอบครัวในบ้าน และ Chickenjoy ไก่ทอดสูตรพิเศษ เสิร์ฟพร้อมข้าวและเกรวี่ ตอบโจทย์พฤติกรรมการกินแบบเอเชีย
• การใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเป็นจุดแข็ง: เมนู Peach Mango Pie ใช้มะม่วงฟิลิปปินส์คุณภาพสูง เป็นซิกเนเจอร์ที่สะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่นโดยไม่พึ่ง
วัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ
2. Atmosphere Experience Design: การสร้างความผูกพันเพื่อ Superfans
Jollibee ออกแบบ ประสบการณ์ในร้าน ให้เป็นที่พักพิงทางอารมณ์สำหรับครอบครัว
• The Joy DNA: มาสคอตผึ้งยิ้มแฉ่งและสีแดง-เหลืองสดใส ถูกออกแบบทางจิตวิทยาเพื่อกระตุ้นความสนุกสนานและความสุข พนักงานได้รับการฝึกให้บริการด้วยท่าทีอบอุ่นเป็นมิตร ซึ่งทำให้ Jollibee ได้รับการยอมรับด้านบริการระดับนานาชาติ
• พื้นที่สร้างความผูกพัน: ร้านสาขาไม่ใช่แค่จุดซื้ออาหาร แต่เป็น พื้นที่รวมญาติ ที่สามารถจัดงานวันเกิดหรือรวมตัวครอบครัว ทำให้ลูกค้าจดจำประสบการณ์ดี ๆ และกลายเป็น Superfans ที่พร้อมสนับสนุนแบรนด์
3. Global Expansion: การเลือกตลาดและการสร้าง Superfans พลัดถิ่น
การเติบโตสู่แบรนด์ระดับโลก (Global Brand) ของ Jollibee เริ่มจากการขยายสู่ตลาดที่มีรากทางวัฒนธรรมร่วมกันผ่านกลยุทธ์ Diaspora Marketing ที่ใช้รสชาติฟิลิปปินส์เป็นหัวใจหลักในการเข้าถึงลูกค้าชาวฟิลิปปินส์พลัดถิ่นทั่วโลก
• การตลาดกลุ่มคนพลัดถิ่น (Diaspora marketing): การออกแบบรสชาติฟิลิปปินส์เป็น ตัวกรองการเลือกตลาด โดยเน้นเมืองที่มี ชุมชนชาวฟิลิปปินส์พลัดถิ่น (Diaspora) เช่น Daly City, California ในสหรัฐอเมริกา การเลือกตลาดเช่นนี้ทำให้การเปิดสาขามี ฐานลูกค้าที่ภักดีสูงและสร้างกระแสแบบปากต่อปากได้เร็ว
• Superfans พลัดถิ่น: ลูกค้ากลุ่มนี้โหยหารสชาติบ้านเกิด Jollibee สร้างประสบการณ์อาหารที่เชื่อมโยงความทรงจำและรสชาติบ้านเกิดและพร้อมสนับสนุนแบรนด์ ทำให้ยอดขายสาขาใหม่สูงตั้งแต่วันแรก
ความสำเร็จจากการใช้ Power of Design และฐาน Superfans ที่แข็งแกร่งถือเป็นรากฐาน ที่ทำให้ Jollibee กลายเป็นผู้เล่นระดับโลกอย่างเต็มตัวจำนวนสาขา (โดยประมาณ ณ กลางปี 2024): Jollibee มีร้านมากกว่า 1,716 สาขา ทั่วโลก (รวมถึงการขยายตัวต่อเนื่อง) ในขณะที่ Jollibee Foods Corporation (JFC) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ มีแบรนด์ในเครือรวมกันกว่า 9,500 สาขา ใน 37 ประเทศ
มูลค่าแบรนด์ (Brand Value): Jollibee เป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าทางธุรกิจสูงอย่างต่อเนื่อง โดย Brand Finance (ข้อมูลล่าสุดปี 2025) ได้จัดให้ Jollibee อยู่ในอันดับ 17 ของแบรนด์ร้านอาหารที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก และเป็นแบรนด์ร้านอาหารที่มีมูลค่าสูงสุดในอาเซียน รวมถึงเป็นแบรนด์ร้านอาหารที่ เติบโตเร็วที่สุดเป็นอันดับสองของโลกตอกย้ำถึงความสำเร็จของกลยุทธ์การออกแบบที่ยั่งยืน
Jollibee เป็นกรณีศึกษาที่ชัดเจนว่า การออกแบบที่เข้าใจผู้บริโภคและสร้างความผูกพันทางอารมณ์ภายในประเทศให้แข็งแกร่ง พร้อมกับการเลือกขยายสู่ตลาดต่างประเทศที่มีฐาน Superfans เป็นกลไกสำคัญ สามารถขับเคลื่อนแบรนด์ให้ก้าวสู่ระดับ Global Brand ได้อย่างแท้จริง นี่คือพลังของ Power of Design ในการสร้าง Road to Global Brand ของ Jollibee
#Jollibee #Globalbrand #Powerofdesign #5smodel #Baramizi #Branding
