Clubhouse : Drop-in audio chat

แอปพลิเคชั่นโซเชี่ยลมีเดียแบบ Audio-chat บนระบบ iOS ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้เข้าร่วมคลับและห้องจําลองการสัมนาทั้งในฐานะผู้พูดหรือผู้ฟัง ตามหัวข้อที่สนใจกับผู้คนที่สนใจในเรื่องเดียวกัน เกิดการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหลากหลายหัวข้อ เช่น ธุรกิจ, ความบันเทิง, การเมือง และหัวข้ออื่นๆ แบบเรียลไทม์ กับผู้พูดโดยการขออนุญาตเข้าร่วมพูดโดยตรงจากเจ้าของห้อง หรือโดยการเชิญจากผู้พูด ห้องพูดแต่ละ หัวข้อจะดําเนินการโดยมี 3 บทบาทหลัก

  1. Moderator
  2. Speaker
  3. Listener

แพลตฟอร์มใหม่ท่ามกลางสถานการณ์ Covid-19

แพลตฟอร์มใหม่นี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงเวลาท่ามกลางพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปท่ามกลางวิกฤต Covid-19 ของ ผู้คนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ในขณะที่ผู้คนรักษาระยะห่างจากครอบครัวและเพื่อน ถึงจะมีแพลตฟอร์มอื่นที่ ทําให้ผู้คนยังติดต่อกันได้ แต่ Clubhouse เสนอแพลตฟอร์มที่ทําให้เกิด Community ในวงกว้างท่ามกลางคนที่ไม่รู้จัก เกิดการปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้นในขณะที่ต้องอยู่ห่างจากผู้คน ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งในทางสานสัมพันธ์และในเชิงธุรกิจ

ปัจจัยที่ทําให้ Clubhouse โดดเด่น

1. โอกาสเข้าถึง พูดคุย รับฟังสิ่งที่คนสําคัญในวงการนั้นๆ พูดแบบเรียลไทม์

  • ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบทสนทนาโดยตรงแบบเรียลไทม์ของคนที่มีชื่อเสียงในวงการต่างๆ เนื่องจากปัจจุบันบุคคลที่น่าสนใจในหลากหลายวงการ เช่น Elon Musk, Mark Suckerberg, etc. เป็นผู้ใช้ Clubhouse โดยที่คนเหล่านี้สามารถสร้างห้องเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นต่างๆที่สนใจแตกต่างกันไป เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแลกเปลี่ยนความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ เจ้าของห้องสามารถได้รับฟังความคิดเห็นโดยตรงจากผู้ฟัง ทั้งโดยการเชิญให้ผู้ฟังได้พูดและการอนุญาตให้ผู้ฟังพูด ผู้ฟัง สามารถเลือกฟังจากคนที่สนใจได้โดยตรง เป็น Customized exeprience ที่เกิดจากตัวผู้ใช้เอง

2. เป็นทั้ง Exclusive และ Inclusive : ใครๆก็เป็นคนพูดได้ ในประเด็นอะไรก็ได้ และ พูดร่วมกับใครก็ได้

  • ผู้ที่จะใช้แอปพลิเคชั่นนี้ได้จะต้องเกิดจาการได้รับคําเชิญจากสมาชิกอยู่อยู่ในแอป พลิเคชั่นแล้วเท่านั้น ซึ่งความเชิญจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทุกครั้งท่ีมีการเชิญ และเมื่อ ได้รับเชิญแล้ว ผู้ใช้ทุกคนสามารถสร้างห้องเพื่อพูดเรื่องประเด็นต่างๆ ได้ ตั้งแต่เรื่องจริงจังไปจนถึงความบันเทิงท่ัวไป เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้คนที่อยากพูดได้พูด ต่างจากพอดแคสต์ที่เป็น Audio-based แพลตฟอร์มเหมือนกัน แต่เป็น One-way แพลตฟอร์ม ไม่ก่อให้เกิดการมีส่วนร่วม

3. ในฐานะ Audio-Based Social Networking App, Clubhouse เปิดช่องทางใน การสร้าง Influencer แบบใหม่

  • Clubhouse ต่างจาก Social Networking Apps อื่นๆ อย่างเช่น Facebook, Twitter, Instagram etc. เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้เกิดการสนทนาผ่าน เสียง คอนเท้นท์หลักเกิดจากสิ่งที่พูด เรื่องราวที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นในชีวิต และเรื่อง ราวที่สามารถนําไปต่อยอดกับสิ่งอื่นๆ มากกว่าที่จะขับเคลื่อนด้วยภาพที่สามารถ ผ่านการดัดแปลง เนื่องจากเป็นการพูดแบบเรียลไทม์จึงสามารถสื่อสารอารมณ์ ของผู้พูดอย่างตรงไปตรงมา ต่างจากข้อความที่สามารถซ่อนความรู้สึกไว้ได้

4. Potential ที่ Clubhouse จะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้

  • Clubhouse เป็นพื้นที่เสรีในการเปิดบทสนทนา การแสดงออกทางความคิดเห็น ทําให้เกิดการแบ่งปันประสบการจากผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่ประสบความสําเร็จใน อุตสาหกรรมนั้นๆ เกิดตั้งคําถามและถกเถียงในหัวข้อต่างๆที่อาจนําไปสู่บทสรุป วิสัยทัศน์ที่หลากหลายและครอบคลุมในปัญหานั้นๆ Clubhouse อาจจะ เปลี่ยนแปลงโลกของ Social media นับตั้งแต่ Tiktok และ Instagram ที่ผู้ใช้รับสารจากภาพเป็นหลัก เปลี่ยนมาเป็นรับสารจากสิ่งที่พูดโดยไม่มีภาพมาเกี่ยวข้อง

คู่แข่ง Clubhouse

หลังจากที่ Clubhouse ประสบความสําเร็จอย่างรวดเร็วในการเป็นสื่อ Social media แบบใหม่ที่เน้นการใช้เสียงเป็นหลัก ส่งผลให้ในเดือนธันวาคม 2020 Twitter ประกาศฟีเจอร์ใหม่บนแพลตฟอร์มของตัวเองโดยใช้ ชื่อว่า Spaces โดยปัจจุบันยังอยู่ในช่วง Beta ทดลองใช้ ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้ได้ทั้งจากระบบ iOS และ Android การออกตัวของ Twitter นับเป็นการเดินเกมด้วยไพ่ที่เหนือกว่า เพราะนอกจากผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ เข้าร่วมได้ทุกคนแล้ว ผู้ใช้บนทวิตเตอร์ยังมีข้อมูล Social graph อยู่แล้วว่ากําลังติดตามใคร และมีบทสนทนาอะไรอยู่แล้วบนทวิตเตอร์ส่วนตัว ทําให้เกิดการค้นพบเรื่องและผู้คนที่สนใจได้ง่ายกว่า

นอกจากนี้ Facebook ยังได้ประกาศออกสื่อว่ากําลังพัฒนาฟีเจอร์การแชทด้วยเสียงเหมือน Clubhouse โดยยังไม่ได้ระบุว่าจะปล่อยออกมาเมื่อไหร่ ซึ่งนับว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวเหมือนกัน

สรุปหัวใจสำคัญของความสําเร็จ

  1. Clubhouse ก่อต้ังมาในเพื่อทําหน้าที่ Networking กับคนแปลกหน้าหมู่มากในช่วงเวลาท่ีผู้คนไม่สามารถเอาตัวไปอยู่ ณ ที่ตรงนั้นได้จริงๆ ซึ่งตอบโจทย์กับสถานการณ์ปัจจุบัน
  2. เป็น Social networking app ท่ีแตกต่างโดยการใช้เสียงเป็นหลัก เกิดการ Virtual interaction แบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
  3. เป็น User centric app ที่ทําให้ผู้ใช้ได้รับ Customised experiences ด้วยตัวเองโดยการมีอิสระในการเลือกเข้าร่วม หรือติดตามบทสนทนาต่างๆ
  4. มี Emotional value ที่ทําให้ผู้ใช้รู้สึกว่าอยากเข้ามาใช้แอปพลิเคชั่นเพื่อมาแบ่งปันหรือรับสารที่จะนําไปสู่ผลลัพธ์ท่ีดีขึ้น