เมื่อความสงสัยต้องการคำตอบ หากเป็นสมัยก่อนคงต้องไปนั่งค้นหาข้อมูลในบรรดากองหนังสือของห้องสมุด หรืออาจจะไปหาผู้เชี่ยวชาญที่ก็คงจะไม่ค่อยได้มีมาให้สอบถามได้เท่าไหร่นัก ในขณะที่ปัจจุบันข้อสงสัยทั้งหมดสามารถตอบได้ง่ายเพียงไม่กี่คลิก เพราะความรู้ทั้งหมดในโลกล้วนมีขนาดใหญ่ไม่เกินไปกว่าฝ่ามือ
เพียงแค่ค้นหาผ่านกล่องสี่เหลี่ยมอย่าง “สมาร์ทโฟน” ซึ่งตัวช่วยในการค้นหาความรู้ของทุกท่านอันดับต้นก็คงจะไม่พ้น Google อย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ นวัตกรรมอย่าง ChatGPT อาจเข้ามาแทนที่ Search Engine อันดับหนึ่งได้ในไม่ช้า
ChatGPT คืออะไร ?
ChatGPT ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ช่วยตอบคำถาม พัฒนาโดยบริษัท OpenAI ที่ Elon Musk เคยเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกับ Sam Altman ในปีค.ศ. 2015 ก่อน Musk จะออกจากคณะกรรมการบริษัทไปเมื่อปีค.ศ. 2018
และด้วยการใช้งานที่ง่ายเพียงพิมพ์คำถาม ChatGPT ก็สามารถประมวลผลข้อมูลและตอบคำถามให้และบรรยายด้วยภาษามนุษย์ที่เข้าใจง่ายจากการเรียนรู้ในรูปแบบ Reinforcement Learning from Human Feedback (RLHF) ที่มีมนุษย์ช่วยสอนและจัดอันดับการสนทนา เกิดเป็นโมเดลที่ดีที่สุดที่ทำให้แชตบอตอัจฉริยะนี้เรียนรู้รูปแบบการเขียนของข้อความที่ถูกถามจนพัฒนาและตอบคำถามออกมาในรูปแบบของตัวเองได้
โดยในเวลานี้มีนักลงทุนที่ให้การสนับสนุนบริษัท OpenAI อยู่มากมาย และด้วยแนวโน้มการเติบโตของเทคโนโลยีดังกล่าวจึงมีการคาดการณ์ว่าอาจทำให้ในปีค.ศ. 2023 บริษัทอาจมีรายได้ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปีค.ศ. 2024 เลยทีเดียว ซึ่งยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า ChatGPT ยังมีความสามารถที่จะพัฒนาได้อีกไกล
3 จุดเด่นสำคัญของ ChatGPT
และด้วยความสามารถในของปัญญาประดิษฐ์ทำให้มีสิ่งที่ทำให้คู่แข่งอาจไม่สามารถสู้ได้ ดังเช่นจุดเด่นของ ChatGPT ทั้งสามด้านนี้ที่อาจเหนือกว่า Search Engine ชื่อดังอย่าง Google
- มอบประสบการณ์ที่ดีกว่า
ด้วยความสามารถในการเรียนรู้ของ ChatGPT ทำให้สามารถตอบสนองผู้ใช้งานได้เหมือนกับกำลังสนทนากับมนุษย์จริงเนื่องจากให้คำตอบชุดเดียวที่สะดวก รวดเร็วกว่า Google ที่ยังคงแสดงผลลิงค์ให้ผู้ใช้ต้องคลิกไปในหน้าเว็บไซต์อีกครั้ง ซึ่งความสมจริงนี้ยังรวมไปถึงสำนวนที่แชตบอตใช้ตอบคำถามก็เหมือนกับการพูดคุยกับมนุษย์จริงๆ ด้วยเช่นกัน
โดยจุดเด่นในด้านนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกและได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า ทว่าการทำงานของ ChatGPT ยังเป็นการปิดกั้นให้ผู้ใช้งานคลิกลิงค์เว็บไซต์ของ Google ซึ่งเป็นพื้นที่รายได้จากโฆษณาที่มีมูลค่ากว่า 81% ของรายได้ของบริษัท Alphabet เจ้าของ Google ซึ่งคิดเป็นรายได้กว่า 2.08 แสนล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
- เป็นผู้ช่วยเสมือนได้
นอกจากจะสามารถตอบโต้ผู้ใช้งานได้ราวกับเป็นมนุษย์แล้ว ChatGPT ยังสามารถให้คำแนะนำต่างๆได้ราวกับว่ามีผู้ช่วยในการทำงานไม่ว่าจะเป็น การแต่งเพลง แนะนำเมนูอาหารพร้อมวิธีการปรุง การออกแบบการเดินทาง การเขียนรายงานและงานเขียนอื่นๆ และอีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้ คือ การเขียนโค้ด ที่ไม่เพียงแต่เขียนโค้ดให้อย่างเดียว แต่ยังสามารถแก้ไขข้อผิดพลาด พร้อมอธิบายถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นได้อีกด้วย เรียกได้ว่าสามารถช่วยเหลือในด้านการทำงานได้อย่างมากเลยทีเดียว
- ความสามารถในการเรียนรู้
ความสามารถในการตอบคำถามต่างๆที่มีความแม่นยำ และเปรียบเสมือนการตอบคำถามของมนุษย์เหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นจากการเรียนรู้และพัฒนาจากข้อมูลการตอบคำถามในอดีตของผู้ใช้งาน ทำให้ ChatGPT เกิดการเรียนรู้และพัฒนาเพื่อจะตอบคำถามของผู้ใช้งานได้อย่างตรงประเด็นยิ่งขึ้น
ChatGPT จะมาโค่น Google ?
ถึงแม้ว่า ChatGPT จะมีความสามารถที่โดดเด่นในเรื่องของระบบ AI ที่มีการเรียนรู้และเข้าใจภาษาของมนุษย์ การตอบกลับที่ราวกับคุยกับผู้เชี่ยวชาญ จนถึงการเป็นผู้ช่วยเสมือนในการให้คำแนะนำต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นจุดเด่นที่เหนือกว่าบริการของ Google ในปัจจุบันอย่างไม่ต้องสงสัย
เพียงแต่ระบบเหล่านี้ก็ยังมีข้อบกพร่องและต้องพัฒนาอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น แหล่งข้อมูลที่มีอยู่อย่างจำกัด ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ไม่สามารถเปรียบเทียบและตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้อมูลได้ อีกทั้งการใช้งานอาจไม่ฟรีตลอดไป
ซึ่งเมื่อเทียบกับ Google ที่มีฐานข้อมูลขนาดใหญ่และมีข้อมูลอัพเดทอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังมีการนำเสนอผลลัพธ์ที่หลากหลายและเกี่ยวข้องกับคำค้นหามากที่สุดจากการค้นหาเพียงครั้งเดียว ทำให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาข้อมูลที่มีความหลากหลายได้อย่างเรียลไทม์ จะเห็นได้ว่าสองแพลตฟอร์มนี้มีแนวทางในการทำงานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนั้น ChatGPT ที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นยังไม่สามารถมาแทนที่ความสามารถที่โดดเด่นของ Google ได้ในอีกหลากหลายแง่มุม อีกทั้งยังต้องมีการปรับปรุงข้อบกพร่องในเรื่องของความแม่นยำอีกมากมาย
บทบาทในอนาคต
กระนั้นแม้ ChatGPT อาจจะยังไม่สามารถเอาชนะ Google ที่ครองอันดับหนึ่งของ Search Engine ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าความสามารถของ ChatGPT นั้นยังมีหลากหลาย เพราะนอกจากคำถามทั่วไปยังสามารถตอบคำถามที่ซับซ้อนอย่างด้านสังคมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ ปรัชญา หรือแม้แต่สามารถเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ งานเขียน หรือแม้แต่ให้คำแนะนำที่สามารถนำมาใช้แบ่งเบาภาระงานในสายงานต่างๆ ได้อีกมาก
และด้วยความเก่งของแชตบอตอัจฉริยะนี้ ประเด็นที่ถกเถียงกันมาตลอดอย่างการที่ AI อาจมาแย่งงานมนุษย์ก็ถูกหยิบขึ้นมาพูดด้วยเช่นกัน ซึ่งการที่จะสรุปว่าจะเกิดการแทนที่งานของมนุษย์ดังที่กล่าวนั้นอาจยังคงเร็วเกินกว่าที่จะสามารถยืนยันได้แน่ชัด เพราะในทางกลับกันสายงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีก็จะเพิ่ม ซึ่งอาจทำให้รายได้ภายในอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
สรุป : บัลลังก์ของ Google “อาจ” สั่นคลอน
แม้ความสามารถของ ChatGPT ในการตอบคำถามที่ตรงประเด็นและเข้าถึงง่ายจะเป็นจุดเด่นของนวัตกรรมใหม่นี้อาจจะส่งผลกระทบต่อ Google อยู่บ้าง แต่ถ้าจะพูดได้ว่าสามารถโค่นผู้นำตลาดในตอนนี้ได้ ก็อาจจะยังเร็วไปนัก เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่เสมอ ไม่แน่ว่าอาจมีโปรแกรมอื่นที่ถูกพัฒนาขึ้นและสามารถเอาชนะทั้ง ChatGPT หรือ Google ภายในไม่กี่ปีข้างหน้านี้ก็เป็นไปได้เช่นกัน
……………………………………
ขอขอบคุณแหล่งที่มา :
https://www.demandsage.com/chatgpt-vs-google/
https://thestandard.co/chatgpt-disrupt-tech/
https://thestandard.co/chatgpt-google-openai/