H&M แบรนด์รีเทลล์ค้าปลีกชั้นนำที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ด้วยหน้าร้านที่มีทั่วโลกกว่า 4,465 ร้าน พร้อมกับตัวหนังสือหน้าร้านสีแดงที่โดดเด่นสะดุดตาและลักษณะร้านที่สว่าง เปิดโล่ง ดีไซน์ทันสมัย ที่ทุกชั้นวางและราวแขวนมีแต่เสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ชวนให้ทดลองใส่ และเพื่อสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่และดึงดูดผู้คนได้มากกว่าเดิม ในวันนี้เราจะพามาชม H&M รูปแบบใหม่ที่สร้างประสบการณ์ของแบรนด์ให้ได้มากกว่าแค่ภาพจำของร้านเสื้อผ้าแฟชั่นเท่านั้น
H&M Fashion
ในการออกแบบประสบการณ์ร้านค้าที่สมบูรณ์ของ H&M แบรนด์ที่โด่งดังด้านแฟชั่นเป็นทุนเดิม จึงต้องเริ่มจากการออกแบบร้านค้าแฟชั่นที่สร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งกว่าร้านค้าแฟชั่นบนห้างทั่วๆไป โดยการใช้สีสันที่อ่อนลงผสมผสานการสร้างพื้นที่สีเขียวภายในร้าน จากการตกแต่งด้วยต้นไม้ที่มีแหล่งเพาะปลูกภายในประเทศ ที่ถึงแม้การปลูกต้นไม้ภายในห้างอาจพบเจอกับปัญหาสุขภาพต้นไม้ที่ไม่แข็งแรกมากนัก แต่ก็สามารถนำกลับไปรักษาและฟื้นฟูก่อนนำกลับมาที่ร้านอีกครั้งนึง
ซึ่งเป็นสิ่งที่นอกจากจะสร้างบรรยากาศที่ดูเป็มธรรมชาติ สร้างอากาศบริสุทธิ์ สร้างจุดพักสายตาแล้ว ยังช่วยสื่อถึงความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนของ H&M อีกด้วย และพื้นที่โปร่งและสบายตาเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่สร้างความผ่อนคลายให้กับผู้ที่เข้ามาเดินชมสินค้าภายในร้าน เพื่อที่จะค้นหาไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ได้อย่างสบายใจ
H&M Home
“เป็นมากกว่าแค่ร้านค้าเสื้อผ้าแฟชั่น” แต่เป็นคอนเซ็ปต์สโตร์ด้วยร้านค้าที่ประกอบไปด้วยสินค้าตกแต่งบ้านและไลฟ์สไตล์แห่งแรกในเอเชีย ในชื่อว่า “H&M Home” ที่พร้อมจะสร้างประสบการณ์ที่ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่เปรียบเสมือนอยู่ในบ้านหรือโรงแรมในมหานครยุคใหม่ ตอบโจทย์ลูกค้าที่คิดถึงการท่องเที่ยวเพื่อรับบรรยากาศที่แปลกใหม่ในต่างประเทศ ซึ่งประกอบไปด้วยสินค้าสำหรับทุกมุมบ้านตั้งแต่ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว และห้องเด็ก ที่ผสมผสานระหว่างของตกแต่งบ้านกับแฟชั่นที่เป็นจุดเด่นของ H&M ที่มีแต่เดิมในราคาที่จับต้องได้ เพื่อที่จะเป็นจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์ให้แก่คนที่ชอบงานดีไซน์
อีกทั้งยังเพิ่มประสบการณ์ในเรื่องของกลิ่นและบรรกาศที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วยโซนจัดช่อดอกไม้และต้นไม้ที่จะเข้ามาเสริมประสบการณ์ร้านค้าที่เพลิดเพลินยิ่งขึ้น ด้วยกิจกรรมสุดพิเศษที่ให้ประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นเช่น กิจกรรมเวิร์คช็อปสอนการจัดช่อดอกไม้ สบู่แฮนด์เมคสลักชื่อ และการจัดแต่งสวนขวดขนาดเล็ก ทั้งนี้ยังสอดแทรกไปด้วยรายละเอียดที่แสดงถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
H&M Music Studio
ในส่วนของ H&M Music Studio ทางแบรนด์ได้สร้างสตูดิโอที่สร้างประสบการณ์ด้านเสียงเพลงเอาไว้อย่างแท้จริง โดยเปิดเป็นสถานที่ที่ให้ผู้คนที่ชื่นชอบในเสียงเพลงตั้งแต่มือสมัครเล่นไปจนถึงมืออาชีพ หรือแม้แต่วงดนตรีได้ใช้ในการสร้างสรรค์งานอย่าง อัดเสียง ซ้อมดนตรี จัดไลฟ์สตรีมมิ่ง รวมไปถึงสามารถใช้เป็นห้องคาราโอเกะ หรือจัดพอดแคสต์ก็ยังได้ ทำให้สตูดิโอของ H&M แห่งนี้ได้กลายเป็นศูนย์รวมของคนรักดนตรี ทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของศิลปินหน้าใหม่ และเป็นสถานที่พบเจอระหว่างเหล่าแฟนกับศิลปินหน้าเก่าด้วยเช่นกัน
ซึ่งสิ่งที่ H&M เปรียบเสมือนการทำ Emotional Branding ที่แบรนด์สร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคผ่านพลังแห่งเสียงเพลง และการสนับสนุนศิลปินใหม่ กระตุ้นความรู้สึกที่ดีที่มีต่อแบรนด์และนำไปสู่การส่งเสริมแบรนด์ต่อไป ซึ่งไม่แน่ว่านี้อาจเป็นบทเรียนที่ H&M ได้เรียนรู้มาจากครั้งที่เคยเป็นสปอนเซอร์ให้กับงานเทศกาลดนตรีอย่าง Coachella และนักร้องดาวรุ่งดวงใหม่ในเวลานั้นอย่าง Florrie เปิดตัวเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่พร้อมเพลงที่เธอแต่งอย่าง “Too Young To Remember” จนทำให้ยอดขายของแบรนด์เพิ่มขึ้นถึง 15% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันในกับปีก่อนหน้า
D’ARK Café
เมื่อเข้าร้านเสื้อผ้า หรือร้านขายของตกแต่งบ้านเมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้ว เพราะนอกจากความเพลินในการเลือกหยิบ เลือกดูแล้ว คนที่มาด้วยก็คงจะต้องหาที่นั่งรอหรือไม่ก็ยืนรอจนเหนื่อยใจ แม้เว้นแต่คนช้อปปิ้งเองก็อาจจะอยากนั่งพักรอบก่อนตะลุยเลือกสินค้าต่อก็เป็นได้เช่นกัน เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ทุกประสาทสัมผัสในร้าน H&M ก็ได้นำ D’ARK Café ร้านอาหารชื่อดัง มาเปิดภายในร้านที่มีขนมหวานและเครื่องดื่มไว้ให้เลือกสรร และดึงดูดผู้คนด้วยความโดดเด่นของกลิ่นกาแฟ Specialty Coffee และรสชาติขนมพิเศษของทางร้านที่เข้ากันอย่างดี
สรุป
การสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรอบเดิมๆของธุรกิจอีกต่อไป เพราะปัจจุบันลูกค้าไม่ได้เข้าร้านกาแฟเพราะต้องการดื่มกาแฟ และไม่ได้เข้าร้านเสื้อผ้าเพราะต้องการซื้อเสื้อผ้าเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ดังนั้นการนำเสนอประสบการณ์ที่แปลกใหม่จึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่จะสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจ ดังเช่นที่ได้ยกตัวอย่าง H&M ที่ไม่ได้มองถึงแค่การออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่นนำสมัย แต่มุ่งเน้นที่การออกแบบประสบการณ์ทุกจุดสัมผัสตั้งแต่รูป รส กลิ่น เสียงที่พร้อมจะดึงดูดให้เราเข้าไปเดินช็อปปิ้งอย่างเพลิดเพลิน จนรู้สึกว่าเดินเพียงพักเดียวก็หมดวันเสียแล้ว และก็ไม่แน่อาจมีสิ่งของเล็กๆน้อยๆติดมือกลับไปอย่างไม่คาดคิดก็เป็นได้
………………………………………….
ขอขอบคุณแหล่งที่มา :
https://happeningbkk.com/post/9235
https://www.sanook.com/men/76441/
https://atkitchenmag.com/hm-home-bangkok/
https://blog.tunedglobal.com/handm-music-marketing-social-media-engagement