รวม 10 เทรนด์การสร้างแบรนด์ที่น่าจับตาแห่งปี 2023

ปัจจุบันคงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าแบรนด์ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน เพราะเมื่อซื้อสินค้าหรือบริการใดๆ นอกจากผู้บริโภคจะพิจารณาจากคุณภาพและราคาของสินค้า ตัวแบรนด์ยังเป็นส่วนสำคัญที่ใช้ในการตัดสินใจด้วย ผู้บริโภคไม่ได้เพียงจ่ายเงินเพื่อประโยชน์การใช้งานตรงๆ เช่นนั้น ทว่ามันคือการจ่ายเพื่อซื้อคุณค่าแฝงที่สินค้าเหล่านั้นมอบให้ผ่านโลโก้หรือชื่อแบรนด์ต่างหาก ลองนึกเมื่อท่านถือแก้วกาแฟจากร้านทั่วไปเทียบกับร้านดังแห่งหนึ่งที่มีโลโก้รูปไซเรน ความรู้สึกของท่านก็คงแตกต่างกันและคงเห็นภาพได้ชัดเจนโดยไม่ต้องอธิบายไปมากกว่านี้

การสร้างแบรนด์นอกจากจะทำให้แตกต่างจากผู้เล่นอื่นในตลาดแล้ว สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งคือจะทำยังไงให้แบรนด์อยู่ในใจของลูกค้าซึ่งจะต้องจดจำได้มากกว่าโลโก้ หรือสีเพียงเท่านั้น ซึ่งเป็นไปได้ยากนักเมื่อเทคโนโลยีทำให้ลูกค้าได้เจอทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึงพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งก็คงจะเห็นได้ในปัจจุบันที่บางแบรนด์ก็ได้พยายามทรานส์ฟอร์มเพื่อที่จะได้ตามทันโลกยุคใหม่นี้ เราจึงมานำเสนอเทรนด์การสร้างแบรนด์ที่น่าสนใจในปี 2023 นี้กัน

มารู้จัก 10 เทรนด์การสร้างแบรนด์น่าจับตา

 1. การปรับเปลี่ยนโลโก้แบรนด์

​หากพูดถึงเทรนด์การออกแบบโลโก้ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่พูดถึงเทรนด์ Minimalism ที่เป็นการออกแบบโลโก้ที่มีความชัดเจนและเรียบง่ายที่สุด จากการใช้เลือกฟอนต์ตัวหนังสือที่เรียบง่าย ใช้สีที่น้อยลง และเพิ่มพื้นที่ว่างในโลโก้ เพื่อขจัดความยุ่งเหยิง ลดภาระทางความคิดให้กับผู้บริโภค แต่สามารถสื่อสารประเด็นสำคัญได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้สิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญคือ การปรับเปลี่ยนรูปแบบ ขนาด และความซับซ้อน ของโลโก้ให้มีความหลากหลายสามารถปรับใช้ในการสื่อสารในช่องทางที่ต่างกันได้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการมองเห็นและสร้างการจดจำในตราสินค้าได้มากขึ้น

2. การสร้างแบรนด์ที่ยั่งยืน

เนื่องปัญหาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และสังคมในปัจจุบันทำให้มีผู้บริโภคมีความตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นผลให้พวกเขามีความใส่ใจในการเลือกผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่มีความยั่งยืนมากขึ้น จากการศึกษาของ Statista (2019) พบว่า 23% ของผู้บริโภคยอมจ่ายเงินเพิ่ม 1% ถึง 5% สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืน ดังนั้นการสร้างแบรนด์ที่มีความยั่งยืนจึงเป็นสิ่งที่มีส่วนช่วยในการดึงดูดผู้บริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ได้อีกด้วย

3. แบรนด์ที่รับผิดชอบต่อสังคม

​ในปัจจุบันผู้บริโภคไม่ได้มองว่าผลิตภัณฑ์เป็นเพียงสินค้าสำหรับการบริโภคอีกต่อไป แต่พวกเขามองหาแบรนด์ที่พร้อมจะแบ่งปันแนวทางการดำเนินงานที่สามารถสร้างคุณค่าให้กับพวกเขาได้ ดังนั้นการสร้างแบรนด์ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมจะช่วยเพิ่มจุดมุ่งหมายในการซื้อสินค้ามากขึ้น และสามารถสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคในระยะยาวได้อีกด้วย

4. ข้อมูลเป็นตัวสร้างแบรนด์ (Data-Driven)

ธุรกิจและผู้บริโภคต่างสร้างปริมาณข้อมูลอย่างมหาศาลอยู่ตลอดเวลา ผ่านการค้าขายและการเชื่อมต่อในโลกออนไลน์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะมีส่วนช่วยในการเข้าใจถึงปฏิสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและผู้บริโภค สิ่งสำคัญคือ ธุรกิจจะต้องมีการเก็บรวบรวม จัดระเบียบ วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า โดยมีการใช้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางการพัฒนาสินค้า

5. โซเชียลมีเดียของแบรนด์เป็นสิ่งจำเป็น

ด้วยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่ก้าวหน้าและพฤติกรรมของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้โซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้นนี้ย่อมส่งผลต่อการสร้างแบรนด์และกลายเป็นจุด Touch Point ใหม่ไปโดยปริยาย เนื่องจากเป็นช่องทางที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกได้ตอบโต้กับแบรนด์โดยตรง และด้วยเหตุนี้จึงทำให้องค์กรกว่า 90% จากการสำรวจมีการใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียเพื่อสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ได้มากขึ้นกว่าเดิม (Hootsuite, 2020)

อย่างไรก็ดี การใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียทางแบรนด์ก็ต้องมีการใช้งานให้เหมาะกับแต่ละแพลตฟอร์ม เพื่อให้ประสิทธิภาพในการใช้งานให้มากที่สุดโดยจำเป็นต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มเหล่านั้นอยู่ตลอด เพราะลูกค้าจะมีส่วนร่วมกับแบรนด์ของท่านมากหรือน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยนี้เช่นเดียวกัน

6. การสร้างชุมชนออนไลน์

จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้ชุมชนเสมือนจริงหรือชุมชนออนไลน์เป็นส่วนสำคัญในการสร้างแบรนด์ โดยทำหน้าที่เป็นช่องทางสำหรับผู้บริโภคในการตอบโต้ซึ่งกันและกันจากการแสดงความคิดเห็นและพูดคุยกัน เพื่อที่จะสามารถเชื่อมต่อกลุ่มคนหรือลูกค้าที่มีแนวคิดเดียวกัน และสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งขึ้นระหว่างพวกเขาและแบรนด์จนเกิดเป็น Super fans ขึ้นในที่สุด

7. แบรนด์ต้องขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี

ปัจจุบันหลายองค์กรต่างได้รับอิทธิพลจากจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีไม่แพ้กัน หลายองค์กรได้พยายามสร้างและใช้ปประโยชน์จากเทคโนโลยีที่นอกจากจะอำนวยความสะดวกในการให้บริการลูกค้าผ่านระบบที่สะดวกและตอบสนองความต้องการให้เหมาะกับแต่ละบุคคลมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแอพพลิเคชั่น หรือการสั่งผ่านเสียง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

8. สัญลักษณ์แห่งแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ

จากากรศึกษาของ Edelman Trust Baromete พบว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านผู้บริโภคมีความไว้วางใจแบรนด์ที่เขาซื้อลดลง โดยกว่า 86% ของลูกค้าจากการรายงานของ Stackla พบว่าความถูกต้องในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้ามีความสำคัญ ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนถึงความซื่อสัตย์ของแบรนด์และส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของแบรนด์ในสายตาลูกค้า หลายบริษัทในปัจจุบันก็ได้มีการสร้างความเชื่อมั่นและเปิดเผยให้เห็นถึงแหล่งหรือกระบวนการผลิตและให้บริการเพื่อแสดงถึงความโปร่งใสในการดำเนินกิจการที่ไม่ขัดต่อศีลธรรมของผู้บริโภค

9. ลูกค้าคือหัวใจสำคัญ (Customer-Driven)

เราต่างก็ได้ยินคำนี้มานักต่อนัก แต่มีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าได้นำลูกค้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแบรนด์หรือทรานส์ฟอร์มแบรนด์ได้อย่างแท้จริง เพราะจากการสำรวจทั่วโลกพบว่า 62% ของผู้บริโภคต้องการให้บริษัทควรใส่ใจพวกเขามากกว่านี้ การนำลูกค้าเป็นศูนย์กลางนี้ไม่ใช่เพียงทำแบบสำรวจความชอบหรือความพึงพอใจเพียงเท่านั้น แต่คือการเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงเพื่อนำไปใช้พัฒนาประสบการณ์ของแบรนด์ โดยจากการศึกษาของ Bulbshare พบว่า 77% ของผู้ซื้อชอบแบรนด์ได้ให้พวกเขาได้มีส่วนร่วมด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น หากแบรนด์ใดที่ผู้บริโภครู้สึกว่าเปิดรับฟังลูกค้า หรือมีการพัฒนาประสบการณ์ต่างๆ ของแบรนด์ผ่านความต้องการของลูกค้ามากกว่าจะทำให้แบรนด์นั้นดูน่าเชื่อถือมากขึ้นเมื่อดูจากผลการศึกษาซึ่งคิดเป็นสัดส่วนใหญ่ถึง 86% ของลูกค้าที่ทำแบบสำรวจ

10. ภาพลักษณ์แบรนด์แห่งอนาคต

ลูกค้าต่างต้องการอยากรู้ว่าแบรนด์จะไปได้ไกลกว่าปัจจุบันได้มากน้อยขนาดไหน และมีความเป็นไปได้อะไรใหม่ๆ ที่แบรนด์จะมาสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่พวกเขานอกเหนือจากที่มีอยู่เดิม ไม่ว่าจะการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือ Augmented reality (AR) โดยบางแบรนด์ได้มีการลงทุนไปกว่าหลายล้านดอลลาร์ ด้วยเชื่อว่าจะสามารถขยายความสนใจของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ได้มากขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ดีก็ต้องอย่าลืมว่าแนวโน้มมีความเป็นไปได้ที่จะเหมาะกับแบรนด์ของท่านหรือไม่ ไม่เช่นนั้นภาพลักษณ์ของแบรนด์อาจจะแย่กว่าเดิมแทน

“ความท้าทายของแบรนด์ไม่เพียงอยู่ที่เพียงแค่ทำยังไงให้เป็นที่รู้จักเท่านั้น แต่คือการตามให้ทันกับโลกและพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับการสะท้อนคุณค่าของแบรนด์ให้ผู้คนรับรู้ หลายๆ เทรนด์ที่ได้นำมาฝากในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่อาจจะขึ้นในปีหน้า อยู่ที่ใครจะปรับตัวได้เร็วหรือช้ากว่ากัน”

___________________________________

ขอขอบคุณแหล่งที่มา :

https://financesonline.com/branding-trends/ 

https://www.theadreview.com/branding-trends/ 

https://altitudemarketing.com/blog/10-b2b-branding-trends-2023/ 

https://www.temok.com/blog/branding-trends/ 

https://linchpinseo.com/trends-brand-marketing-strategies/