แรงดึงดูดแบบธรรมดา คือ การมีสิ่งที่แตกต่างกันในรายละเอียดเพียงเล็กน้อย เช่น ราคาถูกกว่า , Packaging ดีกว่า, ตกแต่งร้านต่างกว่า หรือ มีโฆษณาที่ไม่เหมือนใคร เท่านี้เป็นสิ่งที่ไม่มีอะไรใหม่สำหรับธุรกิจในโลกยุคปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้ถือเป็นแรงดึงดูดได้เหมือนกันแต่ยังไม่ถือเป็นแรงดึงดูดพิเศษที่มีพลังมากพอในการสร้างแบรนด์ให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่มีก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลยนะครับ การที่เราจะก้าวไปสู่การสร้างแรงดึงดูดพิเศษมีหลายวิธีที่สามารถทำได้ ลองมาดูกันเลยว่าถ้าเป็นแบรนด์คุณจะสามารถสร้างแรงดึงดูดพิเศษได้อย่างไรกันบ้าง
1. สร้างโดยทำให้แบรนด์คุณเป็นเจ้าแรกในเรื่องนั้นๆ ข้อนี้คือการสร้างนวัตกรรมที่คุณคิดค้นขึ้นมาเป็นเจ้าแรกและสิ่งที่สำคัญที่สุด เมื่อเราคิดขึ้นมาได้เป็นเจ้าแรกๆแล้วนั้นต้องส่งเสียงให้ดังๆด้วย เพราะมีหลายแบรนด์ในประวัติศาสตร์เสียโอกาสทางธุรกิจมหาศาลจาการที่คิดเป็นเจ้าแรกแต่ไม่พูดออกไป เพราะคิดว่าไม่สำคัญ
ยกตัวอย่างแบรนด์หนึ่งในอดีต ซึ่งก็ต้องถือว่าเป็นแบรนด์ที่โ่งดังในยุคนั้นๆ คือ แป้งโกกิ ที่เป็นเจ้าแรกที่ออกมาส่งเสียงดังๆในการทำอาหารโดยการชุบแป้งแล้วนำไปทอด และด้วยโฆษณาที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้คนจดจำได้มาตลอด โดยเฉพาะประโยคยอดฮิตที่ว่า “ ผักเขียวๆ ถ้าไม่ชอบกินก็ชุบแป้งโกกิ แล้วทอด เป็นผักสีทอง” เรียกว่าเป็นการสร้างแรงกระเพื่อม การทอดอาหารไปเลยก็ว่าได้
อีกกรณีที่เป็นแบรนด์แรกๆ ที่เป็นเจ้าแรก แล้วประสบความสำเร็จมาไกลจนถึงทุกวันนี้ ก็คือการที่ Amazon เป็นเว็บไซต์เจ้าแรกที่ทำร้านค้าปลีกออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา โดยเริ่มมาจากร้านขายหนังสือออนไลน์จนมาถึงร้านค้าปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาได้ในที่สุด
2. สร้างโดยทำให้แบรนด์คุณเป็นผู้ปฏิวัติความคิดเดิมๆของวงการนั้น
การที่ Application อย่าง Line ซึ่งเป็น Application ที่เอาไว้ chat พูดคุยกัน ซึ่ง Line ไม่ใช่แบรนด์แรกๆ ที่เกิดขึ้นแต่เป็นแบรนด์ที่มีแรงดึงดูดพิเศษจนสามารถสร้างเป็นธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ไปทั่วเอเชียและทั่วโลก โดยเอาชนะคู่แข่งได้ด้วยการสร้างแรงดึงดูดพิเศษที่เหมาะกับจริตของคนไทยอย่างมากคือ การมีสติ๊กเกอร์ที่บ่งบอกถึงอารมณ์ของการติดต่อสื่อสารของมนุษย์ ซึ่งเมื่อก่อนคนที่ใช้ระบบอื่นก็ยังอยากเปลี่ยนมาทดลองใช้ Line ดูจนติดใจ และ ด้วยแรงดึงดูดพิเศษนี้จึงกลายเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่ามหาศาลได้ สร้างโดยทำให้แบรนด์คุณเป็นแบรนด์ที่แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันของมนุษย์ การที่ Alibaba ก้าวสู่ความสำเร็จระดับโลกโดยใช้เวลาไม่กี่ปีนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่ตอบโจทย์ เรื่องการนำเข้าส่งออกที่มีปัญหามายาวนานในประเทศจีนได้ มีโรงงานมากมายแต่คนในหลายประเทศไม่กล้าสั่งซื้อหรือทำธุรกิจกับจีนโดยตรง เพราะขาดความมั่นใจซึ่ง Alibaba เกิดมาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้โดยเฉพาะ คุณสามารถสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานเป็นจำนวนมากโดยคลายข้อกังวลลงไปเมื่อผ่านตัวกลางการเทรดอย่าง Alibaba แรงดึงดูดข้อนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากในธุรกิจเกิดใหม่อย่าง Start up ดังนั้นลองทบทวนดูครับว่าแบรนด์คุณที่เกิดขึ้นมาใหม่แก้ปัญหาอะไรให้กับลูกค้าหรือผู้คนแบบนี้รึยัง ?
3. สร้างโดยทำให้เร็วกว่าคู่แข่งในตลาดทุกด้าน
บางครั้งสิ่งที่เราทำอาจมีแรงดึงดูดที่ดีแล้ว แต่เราเองก็ไม่รู้ว่าจะสร้างแรงดึงดูดพิเศษอะไรได้อีกแล้ว ลองหันมาดูข้อนี้ซึ่งง่ายๆ แต่ทำไม่ง่าย แบรนด์ที่สามารถเกิดใหม่ในโลกแห่งการที่มีแบรนด์แฟชั่นมากมายในโลกนี้ ก็คือแบรนด์อย่าง ZARA ซึ่งแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่กลายเป็นแบรนด์แฟชั่นที่มีมูลค่ามากระดับโลก หลายคนสงสัยมากว่าแบรนด์นี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ต้องบอกว่าแบรนด์ ZARA ใช้กลยุทธ์หลายข้อ แต่มีหนึ่งข้อที่สำคัญคือความเร็วในทุกๆด้าน ย้ำว่าในทุกๆด้าน ตั้งแต่การได้มาซึ่งความนิยมหรือเทรนด์แต่ละท้องที่ที่รวดเร็วกว่าคู่แข่ง จนถึงการออกแบบและผลิตไปวางหน้าร้านได้เร็วกว่าคู่แข่งขันหลายเท่า ซึ่งการที่ทำได้เร็วกว่าคู่แข่ง ทำให้แบรนด์นี้สามารถตอบสนองตลาดได้ดีกว่า ซึ่งก็ถือเป็นกฎแรงดึงดูดพิเศษเช่นกัน
หรือในธุรกิจประเภท Tech Start up นั้นก็เช่นกัน ทำไมแบรนด์ที่เกิดใหม่ถึงต้องการระดมเงินทุนเพื่อเติบโตอย่างรวดเร็ว ก็เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้งานและสามารถเติบโตต่อไปได้ เพราะเนื่องจากบางแบรนด์ไม่ได้มีเทคโนโลยีที่ซับซ้อนอะไรมาก เมื่อคนเห็นโอกาสที่ดีสามารถเข้ามาได้ไม่ยาก ดังนั้นการที่แบรนด์เหล่านี้จะสามารถเติบโตไปได้ไกล ก็ต้องสร้างแรงดึงดูดพิเศษที่เรียกว่าความเร็ว นั่นเอง
ลองทบทวนดูครับว่าแบรนด์ของท่านว่าท่านมีแรงดึงดูดพิเศษ เหล่านี้แล้วหรือยัง