การสร้างแบรนด์จากภายในองค์กรสู่ภายนอกหรือ Internal branding เป็นสิ่งสำคัญมากของความสำเร็จแบรนด์ในยุคนี้ ในบทความนี้ผมเอาเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังแบบง่ายๆ ไปติดตามกันเลยครับ
การสร้างเป้าหมายเชิงคุณค่าให้พนักงานและผู้บริหารมีทิศทางที่ตรงกันนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับองค์กรที่จะอยู่รอดและประสบความสำเร็จในอนาคต สิ่งที่พบหลายครั้งพนักงานมักจะถูกปลูกฝังให้จดจำแต่ผลประกอบการเชิงตัวเลขและเป้าหมายเชิงตัวเลข ผู้บริหารระดับสูงมักคิดว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญที่สุด แต่เท่าที่ผมพบและจากการวิจัยพบว่าองค์กรที่มักมีโอกาสจะประสบความสำเร็จเอาชนะคู่แข่งล้มยักษ์ได้นั้น มักจะมีเป้าหมายเชิงคุณค่าที่ไปไกลมากกว่าตัวเลข เป็นการมองเห็นความเชื่อ ความศรัทธา และความฝันที่ตรงกันแล้วทุกอย่าง ถูกสื่อสารอย่างมีพลัง มีความตื่นตัว
“ เป้าหมายเชิงตัวเลขคือเรื่องพื้นฐาน ไม่ใช่ เป้าหมายที่ใหญ่พอของการสร้างแบรนด์และธุรกิจแห่งอนาคต ”
เป้าหมายเชิงคุณค่าคืออะไร ?
คือ เป้าหมายที่ต้องตอบคำถามในการดำเนินธุรกิจและพันธกิจแบรนด์ที่มากกว่าจะบอกว่าการเปิดธุรกิจขึ้นมาก็เพียงเพื่อหาเงินไปวันๆ แต่ต้องตอบได้ว่า
– แบรนด์หรือธุรกิจเราให้ประโยชน์อะไรกับลูกค้าตลอดจนผู้คน ?
– แบรนด์หรือธุรกิจเราสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างไรให้ผู้คน ?
สิ่งเหล่านี้แหละครับที่เป็นสาเหตุหลักว่าทำไมองค์กรที่ถูกขับเคลื่อนด้วยเป้าหมายเชิงคุณค่า ที่เต็มเปี่ยมด้วยความฝันจินตนาการนั้น สร้างธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ สร้างสินค้าและบริการที่มีนวัตกรรมถึงขั้นเปลี่ยนโลกได้เลยทีเดียว สิ่งเหล่านี้เป็นเพราะอะไร
เพราะคนพันธุกรรมเดียวกันจะเข้ามา : องค์กรที่มีเป้าหมายเชิงคุณค่าจะได้คนที่อยากขับเคลื่อนคุณค่าเหล่านั้นไปสู่ตลาด สู่ผู้คนร่วมกัน
เพราะสร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งความหลงใหล : องค์กรที่มีเป้าหมายเชิงคุณค่ามักทำงานด้วยความหลงใหล (Passion) ความสนุกที่อยากเห็นลูกค้าหรือผู้คนมีวิถีชีวิตที่ดีขึ้นจึงมักทำให้ลูกค้ารักและกลายมาเป็นสาวกของแบรนด์ได้ดีมากกว่า ซึ่งจะนำมาสู่ยอดขายได้ในที่สุด
เพราะเปิดทางให้ความคิดสร้างสรรค์ทำงานได้ดี : องค์กรที่ขับเคลื่อนการสร้างแบรนด์ด้วยคุณค่าแห่งความฝัน จินตนาการนั้นมักจะส่งผลให้คนกล้าแสดงความคิดสร้างสรรค์ออกมาได้มากกว่า องค์กรที่ถูกขับเคลื่อนเพียงแค่ตัวเลข เพราะในเมื่อเรามีจินตภาพในสมองที่มีภาพความสำเร็จที่เหมือนกันแล้ว องค์กรจึงเสมือนระบบนิเวศน์ที่มีคนมาร่วมสร้างฝันนั้นๆให้เป็นจริง ไม่ใช่ระบบแห่งการสั่งการซึ่งคนเน้นทำตามคำสั่งเพียงอย่างเดียว
ดังนั้นการสร้างเป้าหมายเชิงคุณค่าที่ถูกสื่อสารบ่อยครั้ง จนกลายเป็นเมล็ดพันธุ์ทางความคิดของคนในองค์กรแล้วนั้นจะทำให้พนักงานของเรากลายเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์เราไปเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ผมพูดมาทั้งหมดไม่ได้ให้ท่านละเลยเรื่องการเติบโตทางตัวเลขนะครับ แต่เรื่องตัวเลขมันเป็นผลลัพธ์ทางธุรกิจไม่ใช่ต้นเหตุ ถ้าท่านอยากเห็นผลประกอบการดีท่านต้องทำที่เหตุ ซึ่งอยากได้ผลดีก็ต้องทำเหตุให้ดี และเหตุที่สำคัญที่วันนี้ลูกค้าหรือผู้คนจะสนับสนุนแบรนด์ท่านคือ การที่เข้าได้รับคุณค่าที่ท่านส่งมอบนั่นเอง ลองทบทวนดูนะครับ วันนี้ธุรกิจหรือแบรนด์ท่านมีคุณค่าที่ใหญ่พอแล้วหรือยัง ?